พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ปิดครับ



รายการที่ 398

เหรียญฝาบาตรหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ""หลังยันต์ค่ายกล""รุ่นย้อนยุคออกวัดหัวเด่น ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

บูชา 800 บาท

ปี 2540 เนื้อฝาบาตร เหรียญนี้ สภาพสวยมาก ปกติจะเจอแต่ไม่สวยครับ (รุ่นหลังไม่ทันหลวงพ่อ แต่ประสบการณ์ดี)

ท่าน อ.สมาน เจ้าอาวาส วัดหัวเด่นเป็นช่างที่ก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ของวัดโฆสิตารามให้หลวงพ่อกวย หลังจากนั้น จึงบวชที่วัดหัวเด่นที่อยู่ใกล้กัน จนได้เป็นเจ้าอาวาส เมื่อทำวัตถุมงคลใดก็จะนึกถึงหลวงพ่อกวย เพราะท่านนับถือหลวงพ่อมาก เหรียญนี้ จัดสร้างในปี 2540
#โดยหลวงพ่อเชิญ
หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ (สายหลวงพ่อกวย) ปลุกเสกโดยเต็มกำลัง แจกในคราวฉลองวิหารแก้วสารพัดนึก เมื่อปี 2540 กล่าวถึงพระย้อนยุคหลวงพ่อกวย มีประสบการณ์ทุกรุ่น และใช้ได้ดีเท่าพระที่ท่านสร้างเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ที่ระลึกมอบให้ สำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างศาลาวิหารแก้วสารพัดนึก ที่ประดิษฐานรูปหล่อ เท่าองค์จริงของหลวงพ่อกวย ของวัดหัวเด่น มีหลวงตาสมานเป็นคนสร้าง วัดหัวเด่น ตั้งอยู่ที่ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

 

ปิดครับ



รายการที่ 399

เหรียญนาคปรกเจ้าคุณนร ปี2513

บล๊อคดาวกระจาย พระแท้ทันท่าน เมื่อก่อนต้องมี 4-5,000

บูชา 2,900 บาท

 

ปิดครับ




รายการที่ 400


พระปิดตา วัดยายร้า (วัดสุวรรณรังสรรค์) ปี ๒๕๑๖ เนื้อผงสีเทา ฝังพลอยเสก โรยผงตะไบ (กรรมการ)

พระปิดตา วัดสุวรรณรังสรรค์ ( ยายร้า ) อ.บ้านฉาง จ. ระยอง ปี ๒๕๑๖ พระปิดตาเนื้อผงพลายกุมาร หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่

องค์นี้เนื้อผงสีเทา ฝังพลอยเสก โรยผงตะไบ (กรรมการ) โรยผงตะไบหนาๆ เนื้อหามวลสารทั่วๆไปจะประกอบไปด้วย อินทรีย์สารจำพวก ดอกไม้, ว่าน, กล้วย ฯลฯ.และ ในพระปิดตามีผสมผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม อิสริโกผสมรวมอยู่ด้วยครับ พระที่สร้างออกมามีเนื้อขาว, เทา ,เหลืองและ ดำมีทั้งแบบหลังยันต์ และแบบ ฝังพลอยเสก พระชุดนี้หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ และเหล่าเกจิพระเกจิชื่อดังแห่งภาคตะวันออกในขณะนั้นร่วมกันปลุกเสกอยู่หลายรูปอาทิเช่น หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ,หลวงปู่หอม วัดชากหมาก ตามประวัติที่มีผู้บันทึกกล่าวไว้ว่า พระชุดนี้จัดสร้างโดย ท่านเจ้าอาวาส วัดสุวรรณรังสรรค์ หรือ วัดยายร้า ในปี ๒๕๑๖ จัดสร้างขึ้นในงานเททองหล่อองค์พระประธานที่มีชื่อว่า “ พระพุทธลาโภ “ ของ วัดยายร้า ท่านเจ้าอาวาสใน ขณะนั้นซึ่งท่านมีความเคารพนับถือในหลวงปู่ทิมมากจึงได้ขออนุญาต หลวงปู่ทิมเพื่อ จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นที่ระลึก พร้อมกับจัดงานพุทธาภิเษกขึ้น หลวงปู่ทิม ท่านก็ได้เมตตาปลุกเสก ให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อออกให้ประชาชนได้บูชา เพื่อหารายได้ ไว้ใช้ในการทำนุบำรุง ศาสนสถานของวัดยายร้า
นอกจากนี้พระชุดนี้เจ้าอาวาสวัดยายร้า ได้นำพระชุดนี้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกเพิ่มเติมที่วัดเนินกระปรอกในปี 2516 ด้วย พิธีที่วัดเนินกระปรอกหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีก็มาร่วมเสกในพิธีด้วย พุทธคุณแน่นๆ เน้นๆ เลยครับ แขวนปิดตาวัดยายร้าเพียงองค์เดียวก็เปรียบเสมือนแขวนพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ รุ่นแพงๆ เช่นกัน สำหรับท่านที่งบน้อย ไม่สามารถบูชาปิดตาจัมโบ้ ปลดหนี้ เงินล้าน ก็สามารถหาพระปิดตาวัดยายร้ามาแขวนได้ครับ พุทธคุณเท่ากัน

เมื่อก่อนพิมพ์นี้เช่าบูชาต้องมี 2,000 ขึ้นครับ รับประกันแท้สากล

บูชา 1,450 บาท

 

รายการที่ 401

รูปคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

ได้มาพร้อมพระปิดตาวัดยายร้า จากคนระยอง เป็นรูปถ่ายที่ไม่ทันท่าน น่าจะออกประมาณปี2511-2516 ขึ้นมาครับ รูปคุณแม่แม้ไม่ทันท่านก็บูชาได้ดี เพียงแค่ระลึกถึงครับ

บูชา 450 บาท

 

จอง402

 

รายการที่ 403

พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อรุ่ง(เคราเหล็ก) วัดบางแหวน จ.ชุมพร ปี2500 เนื้อดินผสมว่านมีเกศาทั้งด้านหน้า/หลังชัดเจน

พบเจอน้อยน่าจะ 1ใน3,000 องค์ ปกติจะเจอแต่ไม่มีเกศาครับ องค์นี้แล้วน่าจะหาไม่เจออีกแน่นอนรับประกัน

บูชา 1,500 บาท

หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวนท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีอภินิหารแปลกกว่าพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆคือหลวงพ่อรุ่งท่านเป็นพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่สามารถไว้หนวดเคราได้สาเหตุก็คือหนวดเคราของท่านนั้นไม่สามารถโกนได้ คือโกนไม่เข้านั่นเองครับแต่สำหรับผมของท่านนั้นสามารถโกนได้หนวดเคราของท่านนั้นต่อให้มีดโกนที่คมขนาดไหนก็ตามก็โกนไม่เข้าจนชาวบ้านพากันเรียกท่านว่า "หลวงพ่อรุ่งเคราเหล็ก" ตามคุณวิเศษของท่านหนวดเคราของหลวงพ่อรุ่งจะแข็งจนมีดโกนโกนไม่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบแต่คิดว่าคุณวิเศษข้อนี้ของท่านคงเกิดขึ้นมาหลังจากที่ท่านได้บวชและบำเพ็ญภาวนาเป็นเวลานานแล้วต่อมาเมื่อหนวดเคราของท่านยาวขึ้นมา ก็ไม่สามารถโกนได้ เป็นที่เล่าขานกันไปทั่วทางเจ้าคณะจังหวัดชุมพรก็ได้ส่งพระสงฆ์มาทำการสอบสวนและจัดการโกนหนวดเคราของท่านออก แต่พระสงฆ์ที่เจ้าคณะจังหวัดส่งมานั้นโกนหนวดเคราของท่านเท่าไรก็โกนไม่เข้า ทั้งๆ ที่ใบมีดโกนคมกริบ โกนเส้นผมสบายๆแต่พอมาโกนหนวดเคราของหลวงพ่อรุ่งกลับโกนไม่เข้าพยายามโกนเท่าไรก็โกนไม่เข้าเหมือนกับว่าหนวดเคราของท่านเป็นเหล็กอย่างนั้นแหละพระสงฆ์ที่มาทำการสอบสวนหลวงพ่อรุ่งจึงกลับไปรายงานเจ้าคณะจังหวัดว่า "โกนไม่เข้า"เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้เจ้าคณะจังหวัดจึงรายงานเรื่องมายังคณะสงฆ์ผู้ปกครองที่กรุงเทพฯฝ่ายคณะสงฆ์ที่กรุงเทพฯ เมื่อทราบรายงานก็ได้ส่งพระสงฆ์เจ้าหน้าที่ลงไปสอบสวนและพิสูจน์ที่จังหวัดชุมพรคณะสงฆ์ที่ลงไปทำการสอบสวนและพิสูจน์การไว้หนวดเคราของหลวงพ่อรุ่งก็กลับมารายงานหัวหน้าคณะสงฆ์ที่กรุงเทพฯว่า "โกนไม่เข้า" เช่นกัน นี่ก็เป็นเอกลักษณ์และคุณวิเศษของหลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวนที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใครปกติธรรมดาหลวงพ่อรุ่งท่านจะบำเพ็ญภาวนาไม่ค่อยชอบสุงสิงกับผู้คนมากนักในวัดบางแหวนสมัยที่ท่านยังอยู่ จะมีสัตว์ป่าลงมาอาศัยหากินอยู่เสมอ โดยเฉพาะไก่ป่าจะลงมาหากินเศษอาหารที่เหลือจากพระสงฆ์ฉันแล้วตามลานวัดเป็นจำนวนมากทุกวันแต่หลังจากหลวงพ่อรุ่งมรณภาพแล้วสัตว์ป่าเหล่านั้นก็ไม่กล้าลงมาอาศัยหากินในบริเวณวัดบางแหวนเหมือนแต่ก่อนสมัยที่หลวงพ่อรุ่งยังมีชีวิตอยู่ชาวบ้านได้เห็นอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อรุ่งเสมอๆอย่างที่กุฏิของท่านทำด้วยแฝกมุงด้วยหญ้าคา ปลูกสร้างอยู่กลางป่าวันหนึ่งไฟป่าลุกลามมาไหม้ต้นไม้และหญ้าคารอบๆ กุฏิของท่านแต่ไฟป่าหาได้ไหม้กุฏิของท่านแม้แต่น้อย เวลาชาวบ้านมาขอตะกรุดจากท่านท่านก็จะทำตะกรุดและรวบรวมปลุกเสกพร้อมๆ กันหลายดอกขณะที่ท่านกำลังบริกรรมปลุกเสกอยู่นั้น ตะกรุดบางดอกจะละลายไปเองเมื่อปลุกเสกเสร็จแล้วหลวงพ่อรุ่งท่านบอกว่าตะกรุดดอกที่ละลายนั้นแสดงว่าไม่ขลังนำไปใช้ไม่ได้ผลเข้าใจว่าท่านจะปลุกเสกด้วยเตโชกสิณ ตะกรุดดอกที่ละลายคือไม่อาจต้านทานความร้อนได้ตะกรุดของหลวงพ่อรุ่งจะส่งผลในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุตรวมทั้งป้องกันไฟได้ด้วยเคยมีคนไปพบรูปเหมือนและตะกรุดของท่านตกอยู่ในกองไฟที่ชาวบ้านเขาเผาป่าเพื่อทำไร่แต่ปรากฏว่ารอบๆ บริเวณนั้นไม่ถูกไฟไหม้ วัตถุมงคลของท่านนั้นส่วนมากจะเป็นตะกรุดผ้ายันต์เสียเป็นส่วนใหญ่ พระเครื่องของท่านนั้นมีอยู่เพียงรุ่นเดียวคือพระผงรูปเหมือน และเหรียญรูปท่านที่สร้างในปีพ.ศ.2500 โดยสร้างเป็นรูปท่านแต่มีหนวดมีเครา

 

รายการที่ 404

เหรียญเสด็จกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี2518

เนื้ออัลปาก้าสร้างน้อยกว่าทุกเนื้อ เมื่อก่อนพันขึ้นครับ

บูชา 650 บาท

จัดสร้างที่วัดไตรมิตรวราราม อ.แหลมฟ้าผ่า อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อพ.ศ.2518 (พิธีพร้อมเหรียญกริ่ง)

ก่อนจะทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ ได้นำไปให้หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม ปลุกเสกเดี่ยว จากนั้นจึงได้นำเข้าพิธีปลุกเสกตั้งแต่วันที่ 1-8 พฤษภาคม พ.ศ.2518 โดยมี หลวงปู่ีโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธาน อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธีการปลุกเสกเหรียญในครั้งนี้ ได้ปลุกเสกครั้งละ 1 เหรียญ

พิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระรูปเสด็จกรมหลวงชุมพรฯ และเหรียญอื่นๆ เสกทีละเหรียญ 7 วัน 7 คืน เริ่มพิธีตั้งแต่วันที่ 1-8 พฤษภาคม 2518 แล้ว จัดให้มีงานประจำปีต่ออีก 4 วัน 4 คืน ไปจนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2518 เปิดโอกาสให้ประชาชนรับเหรียญ เป็นสมณาคุณ เพื่อการกุศลในการช่วยพัฒนาวัด

โดยได้เรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้อุปถัมภ์ นายสมบูรณ์ พรหมเมศร์ นายอำเภอเมืิอง สมุทรปราการ เป็นประธานจัดงาน อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นประธานเจ้าพิธี ฝ่ายคณะสงฆ์ มีพระมหาปัญญา เจ้าคณะตำบลแหลมฟ้าผ่า เป็นผู้อุปถัมภ์ พระใบฏีกาสุคนธ์ จิรธมฺโม เจ้าอาวาส เป็นประธานจัดงาน

เริ่มพิธีวันที่ 1 พฤษภาคม 2518 เวลา 03.40น. อาจารย์ชุม ไชยคีรี เริ่มทำพิธีบวงสรวงสังเวย เชิญวิญญาณ เสด็จกรมหลวงชุมพร พระภูิมิเจ้า อดีตเจ้าอาวาส ขณะทำพิธีบวงสรวง ได้เกิดพายุฝนเป็นอย่างหนักเป็นน่าอัศจรรย์ พอหมดพิธีสังเวย พายุฝนก็หยุดทันที

ต่อจากนี้ก็ประกอบพิธีเสกเหรียญทีละเหรียญ มาถึงวันที่ 3-8 พ.ค.2518 ก็มีคณะนายทหารและพลทหาร ประชาชนมาสู่ในพิธีมาก และได้เข้าอบรมจิตวิธีเข้าถึงคุณพระบิดา พระมารดา และคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อาจารย์ชุม ไชยคีรี มอบพระรูปเหรียญกรมหลวงชุมพรฯ ให้กำไว้ในมือ แนะให้นึกถึงคุณพ่อหายใจเข้าว่า พุทธ หายใจออกนึกถึงแม่ว่า โธ ให้นั่งสมาธิกำหนดลมหายใจเข้าออกอยู่อย่างนี้นาน ประมาณ 20 นาที อาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็เรียกเข้ามาทีละคน ในมือกำรูปกรมหลวงชุมพรฯไว้ อาจารย์ก็ทดลองความคงกระพันชาตรี ฯลฯ.

 

ปิดครับ




รายการที่ 405

พระผงน้ำมัน วัดชนะสงคราม พิมพ์พุทธกวัก พ.ศ.2491 (พิมพ์พุทธกวัก..ได้รับความนิยม กว่า พิมพ์อื่นๆ)

ของดีราคาเบา คนละองค์กับที่ผมใช้บูชาอยู่ในกรอบเก่านะครับ

บูชา 700 บาท

พระผงน้ำมัน วัดชนะสงคราม พิพม์พุทธกวัก พ.ศ. 2491 วัดชนะสงคราม ได้มีการบูรณะพระอุโบสถครั้งใหญ่ ทางวัดจึงได้สร้างพระผงน้ำมันชุดนี้ขึ้น โดยนำผงที่รวบรวมจากพระที่ได้จากกรุเก่า ๆ ในวัด และนำผงวิเศษจากพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศมาผสม และได้นำผงอันเป็นส่วนหักป่นจากพระกรุต่างๆ ซึ่งในสมัยนั้นหาได้ไม่ยากได้มาจำนวนมากมายมาผสม และผงธูปบูชาพระประธานในโบสถ์ ผงเกสรดอกไม้บูชาพระในโบสถ์ กับ ผงพระหักป่นจากพระกรุวัดชนะสงครามวังหน้า (พระ ซุ้มเถาวัลย์) โดยให้พระและเณรในวัด ช่วยกันพิมพ์พระ ระหว่างพิมพ์พระก็มีพระเถระผู้ใหญ่คอยควบคุมเพื่อให้พระเณรที่พิมพ์พระกระทำอย่างสงบสำรวมโดยตลอด เนื้อหามวลสารพิถีพิถันมาก แม้แต่น้ำที่นำมาละลายประสานมวลสารยังผสมน้ำมนต์จาก วัดสำคัญๆ ทั่วประเทศ อาทิ วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดสระเกศ วัดบวรฯ.ฯลฯ

เนื้อพระจึงมีสีขาวหม่นเพราะชุ่มน้ำมัน สร้างเป็นพิมพ์พระประจำวัน ภายในขอบสี่เหลี่ยมชิ้นฟักแบบพระสมเด็จ แต่มีขนาดเล็กกว่า และเพิ่มพิมพ์พุทธกวักและพิมพ์มหากัจจายน์ขึ้นอีกสองพิมพ์

ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งนั้น มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังชุดสร้างพระเครื่องที่วัดราชบพิธ เช่น

หลวงปู่นาค วัดระฆังฯ
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว
หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ
หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด
หลวงพ่อลี วัดอโศกกราม
หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติฯ
หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯ
หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม
หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ฯลฯ

 

ปิดครับ



รายการที่ 406

#สุดยอดมหาพิธีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์#พิธีจักรพรรดื์มหาพุทธาพิเษก@พระพุทธชินราชใบเสมาเนื้อดิน พร้อมกล่องเดิม

บูชา 650 บาท

พระพุทธชินราชใบเสมาเนื้อดินเผาผสมผงเก่าและผงตะไบ ณ วิหารหลวงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พิษณุโลก 2515

พิธีนี้พระอาจารย์ผ่อง วัดจักรวรรดิ์และอาจารย์เทพย์ สารีกบุตรเป็นเจ้าพิธีการได้กำหนดควบคุมและดำเนินการทำพิธี จักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก นั้นเห็นพิธีที่ใหญ่มากและยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตำหรับพระคาถาและพระเจริญพระคาถาได้ยาก ตามประวัติในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พิธี####พิธีจักรพรรดื์มหาพุทธาพิเษก@ นี้ครั้งแรกกระทำในสมัยรัชกาลที่ 1 ต่อมามิได้มีอีกจนถึงคราวนี้ 20 มกราคม 2515
สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย
ศจ. สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี และนายกพุทธสมาคมเป็นประธานพิธีจุดเทียนบูขา
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ประธานบริกรรมปลุกเสก
พระคณาจารย์ 109 รูปบริกรรมปลุกเสกเป็นการรวบรวมเกจิอาจารย์สมัยปี2500 มากที่สุดของไทยเป็นรองเพียงพิธี 25 พุทธศตวรรษเท่านั้นดังรายชื่อบางส่วนดังนี้
หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่ออุตตมะ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อนาค วัดทัศนา หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อวัดปากน้ำ
หลวงกรับ วัดโกรกกราก หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หลวงพ่อจ้อย
หลวงพ่อพรหม วัดข่องแค หลวงพ่อตัด หลวงพ่อกวย หลวงพ่อเส็ง
และหลวงพ่อเกษม ลำปาง กับ หลวงปู่แหวน วัดดอนยายปัง ถอดจิตมาเข้าพิธีปลุกเสกด้วย และอึ่นจารนัยไม่หมดรวม 109 รูปเป็นการรวมสุดยอดเกจิในอดีตแทบทั้งหมดขนาดเชียนพระใหญ่ๆไปถามได้ต้องยกนนิ้วให้

 

ปิดครับ



รายการที่407

รูปหลวงพ่อกวย ปี2521

สวยๆ เคยไปถึง 300,000 บาท บานนี้เอาใว้ใช้พุทธคุณได้เลยครับ แบบนี้ยังดูแท้ได้ บูชาตามสภาพ รับประกันแท้สากลทุกสนาม

บูชา 13,500 บาท ราคานี้รับประกันเอาไปเช็คแล้วใครว่าไม่แท้ยินดีคืนเต็มครับ

สวยๆ แบบนี้แพงเลยครับ

 

รายการที่ 408

ตะกรุดสาริกาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า


ยาว 2.5 นิ้ว รับประกันสากล

บูชา 9,500 บาท

 

รายการที่ 409

เหรียญพระเชียงแสนสิงห์หนึ่ง หลังลายเซ็น จอมพล ป.พิบูลสงคราม ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ฯ ปลุกเสก ปี ๒๔๙๔ พร้อมเลี่ยม

บูชา 650 บาท เหรียญจริงสวย เลี่ยมเก่า

เหรียญห้าเหลี่ยม พระพุทธเชียงแสน จัดสร้างโดย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เนื้อทองแดง ด้านหังคือลายเซ็นจอมพล ป. ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2494 เพื่อเป็นการบูชาและรำลึกถึงพระกฤตยาภินิหารของพระเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ที่ประดิษฐานอยู่บนเรือหลวง"ศรีอยุธยา" ที่ได้ช่วยคุ้มครองท่านจอมพล ป.ที่ถูกควบคุมตัว จากฝ่ายกบฏแมนฮัตตัน ที่โจมตีด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด และอาวุธต่างๆ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยและได้ชัยชนะในที่สุด

จัดพิธีพุทธาภิเษกอันยิ่งใหญ่ โดยมีพระคณาจารย์อาทิ
- ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ ศิษย์เอกของท่านสมเด็จสังฆราชแพ
- หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
- หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
- และพระสายกรรมฐาน พระอาจารย์มั่นอีกหลายรูป เป็นต้น
เหรียญดีมีประสบการณ์คลาดแคล้วปลอดภัย ดีทุกด้าน ปัจจุบันเริ่มจะหายากแล้วครับ ถือเป็นของดีราคาเบา

 

รายการที่ 410

เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รุ่นบังตัวพระเจ้าอยู่หัว หลังสมอ วัดปากน้ำ ชุมพร ปี 2515

หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ปลุกเสก พร้อมพระเกจิอาจารย์สายใต้ปลุกเสก เหรียญดีมีประสบการณ์ เนื้อทองแดงคมชัด ของเลียนแบบเยอะมาก เหรียญนี้ปั๊มกระแสชัดเจน เลี่ยยมพร้อมบูชา

บูชา 700 บาท

 

ปิดครับ




รายการที่ 411

พระพรหมหลังรูปเหมือนหลวงพ่อกล่อม ปี2517

เลี่ยมเลนส์เก่ามา บูชา 550 บาท

พระพรหมนิมิต เป็นพระผงรูปเหมือน
ของพระธรรมวราลังการ (กล่อม อนุภาสเถระ)
อดีตเจ้าอาวาสวัดบุปผารามฯ ธนบุรี

ท่านเจ้าคุณฯ กล่อม เป็นพระเถระผู้ใหญ่
ที่มีลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่เคารพศรัทธา
ท่านเป็นจำนวนมาก พื้นเพท่านเป็นคนนครศรีธรรมราช
เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน

และเป็นอีกหนึ่งในพระสุปฏิปันโนที่มรณภาพแล้ว
สรีระของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย
เล่ากันว่าก่อนมรณภาพ

ท่านไม่ต้องการขอพระราชเพลิงสรีระของท่าน
และให้นำสรีระของท่านไปตั้งไว้ที่วัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง
จ.นครศรีธรรมราช และเป็นพระที่หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง
บอกว่าท่านบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์


เคยมีผู้นำไปให้พลโทสมาน วีระไวทยะ ดู พลโทสมานท่านตรวจดูแล้วบอกว่ามีพลังเย็นเหมือนกับพระสมเด็จ ที่สมเด็จโตฯท่านอธิษฐานจิตพลโทสมาน ท่านสงสัย พลันได้เห็นและได้ยินเสียงพระพรหมว่าฉันอธิษฐานเอง

ประวัติ โดยย่อท่าน

หลวงปู่กล่อม วัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช ตอนเป็นสามเณรเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปลอด วัดนาเขลียง สังขารไม่เน่าไม่เปื่อย ก่อนวันมรณะภาพท่านได้สังเสียลูกศิษย์ ว่าร่างของท่านให้นำไปบรรจุที่วัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช อันเป็นบ้านเกิดของท่าน และสั่งห้ามมิให้เผา ท่านสามารถรู้เหตุการณ์ได้ล่วงหน้า นามเดิมชื่อว่า พระธรรมวราลังการ วัดบุพผาราม กทม. หากเพื่อนสมาชิกมีโอกาสไปวัดเพ็ญญาติ ลองไปกราบของพรท่านนะครับ พระปฎิบัติดีและปฎิบัติชอบ มีโอกาสกราบไหว้จะเป็นบุญ ฉายาของท่าน คือ มีเหรียญท่าน พระไม่กัด สาเหตุพระท่านเมตตาสูงมาก ได้รับการยกย่องจากพระเถระหลายท่าน

 

รายการที่ 412

เหรียญรุ่นแรก “หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล”

เลี่ยมเงินพร้อมบูชา

บูชา 3,000 บาท

อดีตเกจิอาจารย์ดังวัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

วัตถุมงคลรุ่นแรกรุ่นเดียวของท่านมีเสียงร่ำลือเรื่องพุทธคุณเด่นในด้านคงกระพันและเหนียวสุดๆ นักลองของผวาไม่กล้าเอาไปลองยิงเพราะกลัวมีอันเป็นไป

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของ ด.ต.สุธี เสรีเผ่าวงษ์ ผู้บังคับหมู่อำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบ.หมู่ อ.ก.บก.7) หรือเจ้าของฉายา “ดาบธี ภาค7" ผู้ที่ชื่นชอบและสะสมวัตถุมงคลรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตำรวจได้ติดตามคำร่ำลือเรื่องพุทธคุณของเหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม มีผู้ต้องหาหลายราย โดยเฉพาะผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกัน แต่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเพราะผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายราย เสื้อมีรอยทะลุจากลูกกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นไร ซึ่งมีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลายสถานี

"ดาบธี"เผยต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ เหรียญหลวงปู่เจิมมีประสบการณ์อีกครั้ง โดยช่วยชีวิต พลทหารฉัตรชัย บุญช่วย ชาว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ให้รอดตายจากการถูกปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงบริเวณท้อง เมื่อตนเองทราบเหตุได้เดินทางไปพบทันที และสิ่งแรกที่ทำคือ ขอดูพระว่ามีพระอะไรดี ปรากฏว่าพลทหารฉัตรชัยแขวนเหรียญรูปไข่ หลวงปู่มหาเจิม หันข้าง เพียงเหรียญเดียว จากการตรวจสภาพบาดแผลพบว่ามีเพียงแค่รอยถลอกเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของท่านช่วยคุ้มครอง

สำหรับการลองของด้วยการใช้ปืนยิงไปที่องค์พระ หรือวัตถุมงคล ส่วนใหญ่จะทดลองยิงกันเฉพาะบุคคล และเป็นข่าวรู้กันในหมู่ของนักลองของเท่านั้น แต่ที่ หมู่ ๒ ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม มีการรวมกลุ่มของนักลองของอย่างเป็นเรื่องราวนับสิบคน จัดสนามลองของโดยใช้บ่อปลาหลังบ้าน ซึ่งเป็นที่โล่งแจ้งปลอดผู้คน โดยมีการลองกันทุกสัปดาห์ ชนิดที่เรียกว่า “ใครมีของดีใครมีของแน่ พระเครื่องและเหรียญเกจิใดขึ้นชื่อว่าเหนียว ต้องเจอยิงทุกเหรียญ”

นายสม พิงสีกัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๒ ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม หรือ ที่ลูกบ้านเรียกว่า ผู้ใหญ่นงค์ บอกว่า เพราะความอยากรู้และคนอยากเห็น การลองของจึงเกิดขึ้น การลองทดสอบพุทธคุณองค์พระมีมานาน ทั้งนี้ก่อนการทดสอบพุทธคุณด้วยการยิงทุกครั้ง สิ่งหนึ่งที่นักลองของปฏิบัติยึดเป็นธรรมเนียมประเพณี คือ มีธูป เทียน และดอกไม้ เพื่อจุดอธิษฐานอาราธนาชมพุทธคุณและบารมี ขณะเดียวกันผู้ที่ลองยิงนั้นจะหันไปในทิศที่วัดนั้นๆ ตั้งอยู่ พร้อมกับตั้ง นะ โม ๓ จบ พร้อมกับอธิษฐานจิตว่า “การลองยิงในครั้งนี้ไม่ใช่การลบหลู่ใดๆ ทั้งสิ้น หากเป็นการขอชมอำนาจบารมี และพลังแห่งพุทธคุณเท่านั้น”

“เคล็ดอย่างหนึ่งของมือปืนที่มีความเชื่อสืบต่อกันมามีอยู่ ๒ ข้อ คือ ๑.ปืนถ้าจะยิงให้ออกหรือยิงให้เข้า คือปืนที่มีชื่อนำหน้าว่า ลูก เช่น ปืนลูกซอง ปืนลูกกรด ๒.ต้องถอดรองเท้า โดยระหว่างยิงต้องยืนอยู่พื้นดิน โดยให้อธิษฐานจิตว่า ขอให้ยิงออก ฝังพื้นพระแม่ธรณี หรือจมดิน หากพระเกจิที่ปลุกเสกวัตถุมงคลไม่เก่งและไม่เหนียวจริง ปืนจะยิงทะลุเหรียญ ที่ผ่านมาได้ลองยิงพระมาหลายร้อยเหรียญ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยิงไม่เข้า ซึ่งเป็นเรื่องแปลกว่า เหรียญที่ทำจากโลหะชนิดเดียวกัน แต่สร้างโดยเกจิต่างองค์กัน บางเหรียญยิงทะลุ บางเหรียญกลับยิงไม่ทะลุ และที่ยิ่งกว่านั้นคือ ภาพถ่ายของพระที่เป็นกระดาษ หรือ ผ้ายันต์ กลับใช้ปืนยิงไม่ทะลุ” ผู้ใหญ่นงค์กล่าว

พร้อมกันนี้ ผู้ใหญ่นงค์ยังบอกด้วยว่า พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ยิงออกนับวัดและจำนวนไม่ถ้วน ที่ยิงไม่ออกก็มีอยู่ไม่น้อย ครั้งหนึ่งเคยมีคนนำ เหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม ปัญญาพโล ประธานสงฆ์จังหวัดนครปฐม มาให้ลองยิง คิดว่าต้องยิงเข้า แต่ที่ไหนได้เหรียญที่ตั้งไว้กับโฟมไม่ล้ม และลูกปืนกลับไม่ระคายผิวองค์พระแม้แต่น้อย หลังจากออกมาจากจุดลองของ อยู่ๆ เป็นอัมพาตไปครึ่งตัว ใช้เวลาหลายวันจึงหายเป็นปกติ จากนั้นเป็นต้นมาก็มีเรื่องเล่าของผู้ที่เอาเหรียญพระมหาเจิมไปลอง เหรียญยิงไม่เข้า หรือปืนยิงไม่ออก แต่ผู้ยิงต้องมีอันเป็นไปต่างๆ นานา จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครกล้าลองยิงเหรียญหรือลบหลู่หลวงปู่มหาเจิมอีกเลย

 

รายการที่ 413

พระผงไตรมาส หลวงพ่อเกษม ปี2518

พระมีซ่อมด้านล่างมา เลี่ยมกรอบผ่าหวายเก่า คลาสสิคอีกแบบเอาใว้ใช้พุทธคุณได้เลยครับ มีเกศาหลวงพ่อฝังในเนื้อพระ

บูชา 1,500 บาท

 

ปิดครับ



รายการที่ 414


พระปิดตามหาลาภ เหล็กไหล7สี ปี 2519
หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน

เนื้อเหล็กไหล 7 สี ปี 19 บารมีเหล็กไหลเต็มๆ ไม่มีมวลสารอื่น หลวงปู่สรวง พาหลวงปู่สร้อย ไปที่ภูตะแบง ประเทศเขมร ทำพิธีตัดและอัญเชิญเหล็กไหลมาสร้างวัตถุมงคล เสกตั้งแต่ปี 19 เข้าพิธีมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะพิธีใหญ่ พิธีแรกที่งานฝังลูกนิมิตวัดเลียบราษฎร์บำรุง ปี 19 ในงานมี หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อแพ อาจารย์ฝั้น หลวงปู่แหวน เป็นต้น มาร่วมงานปลุกเสก โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ พุทธคุณ หลวงปู่สรวง เชิญเทวา เชิญบรมครูปู่เหล็กไหล ลงมาสถิตเพื่อเร่งลาภผลเงินทองให้ต่อเนื่อง พลิกชะตาที่ย่ำแย่ให้ดีกว่าเดิม ก้าวผ่านความทุกข์ยากให้เร็วพลัน และด้วยอนิสงฆ์แห่งบารมีเหล็กไหล สามารถใช้แก้ อาถรรพณ์ แก้คุณไสย ดูดสิ่งที่ไม่ดีในกายเรา ให้หมดมลทินรวมทั้งยังเป็นเกราะป้องกันภัยต่างๆ ไม่ให้ก้าวเข้ามา แคล้วคลาดกันภัยเหนือมัจจุราช

คาถา บูชาหลวงปู่สรวงนะโม 3 จบก่อนแล้วว่าตามนี้ นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา ท่อง ๙ ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวใน สิ่งที่ปรารถนาให้ได้ทุกประการ

องค์นี้เจ้าของเดิมบูชามา 3,000 กว่ามีบัตรท่าพระจันทร์ครับ หายาก

 

รายการที่ 415

เหรียญหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน จ.สระบุรี ผูกพัทธสีมาวัดอัมพวัน (( เนื้อเงินสร้างน้อยมากๆ )) สภาพสวยแกะจากเลี่ยมทองมา

บูชา 1,500 บาท

เหรียญผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิต หลวงพ่อย้อยวัดอัมพวัน ปี34 หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง_หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นอธิษฐานจิตครั้งใหญ่ก่อนที่จะมอบให้ญาติโยม ตลอดทั้งศิษยานุศิษย์ทุกท่าน เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นสุดยอดเหรียญแห่งโชคลาภเรียกทรัพย์ เสริมทรัพย์ เสริมบารมี โดดเด่นเรื่อง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ บันดาลโชคใช้แล้วร่ำรวยเงินทอง ทำมาค้าขายขึ้น ดุจแม่น้ำคงคาไม่ขาดสาย สมหวังดังใจผู้ใช้ปราถนา เพราะสร้างด้วยจิตเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ เมตตาสูงสุด(ประสบการณ์โชคลาภ ไม่เป็นรองใคร )ใช้แทนตะกรุดที่ท่านสร้างราคาหลักหมื่นได้เลย

หลวงพ่อย้อย ฉายา ปุญญมี ชื่อเดิม ย้อย นามสกุลชาติภูมิ เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม 2435 ปีมะโรง ที่บ้านโรงเหล้า (บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย บิดาชื่อ นายนิ่ม เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ มารดาชื่อ นางแป๋ เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ ก่อนบรรพชาอุปสมบท อยู่บ้านโรงเหล้า(บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี การศึกษา การศึกษา ประถมปีที่ 4 พ.ศ.2452 ที่วัดวังแดงเหนือ บรรพชาที่วัดอัมพวัน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เมื่อ พ.ศ. 2452 อายุ 16 ปี เศษ มีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบท อุปสมบทที่วัดอัมพวัน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2456 อายุ 21 ปีมีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระใบฎีกาโป๋ วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระกรรมวาจาจารย์มีพระใบฎีกานาค วัดสมุหประดิษฐาราม อำเภอเสาไห้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ตำแหน่งตามพรบ.คณะสงฆ์ ตำแหน่ง พระอธิการเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เมื่อ พ.ศ.2461 อายุ 26 ปี มรณภาพ วันที่ 19 ธันวาคม 2525 รวมอายุ 90 ปี รวม 72 พรรษา สำหรับประวัติหลวงพ่อย้อย ปุญญมี นั้น เป็นที่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้เขียนที่สามารถจะเขียนได้อย่างละเอียดได้ เพราะว่าลูกศิษย์หลายท่านที่จะนำไปทำประวัติ รวมทั้งคุณไพบูลย์ ชมภูทัพ ผู้เขียนเรื่องของดีวัดอัมพวัน ในหนังสือพระธาตุเจติยานุสรณ์ ของวัดอัมพวัน ได้ไปสอบถามกับหลวงพ่อย้อยด้วยตัวเอง 2-3 ครั้ง ท่านเพียงแต่บอกว่าไม่ต้องเอาไปลงหรอกทุกครั้งไป จึงเป็นเรื่องจนปัญญาที่จะหาประวัติอย่างละเอียดของท่านได้ เท่าที่ค้นหาได้จากทะเบียนพระภิกษุวัดอัมพวันตามรายละเอียดที่ ปรากฎข้างต้นนี้ อาจารย์ผู้สั่งสอนเวทย์มนต์คาถา ตำราต่างๆ ให้แก่ท่านคือ หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ที่เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ตอนที่ท่านอุปสมบทนั่นเอง หลวงพ่อย้อยเป็นพระภิกษุผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ที่เจริญด้วยเมตตาอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้พบท่านมาแล้วคงจะได้เคยเห็นว่าเวลาท่านฉันอาหารไม่ว่าเช้าหรือเพล แทบจะกล่าวได้ว่าทุกเวลาที่ท่านฉันจะมีสุนัขและแมวล้อมรอบตัวท่านและสำรับกับข้าวของท่านจำนวนมาก ท่านไม่เคยไล่ให้หนีออกไปเลย ท่านฉันอาหารไป ท่านก็ให้อาหารสุนัข แมวไปด้วยทุกครั้ง ยุงที่กัดท่านก็ไม่เคยที่กัดท่านไม่เคยถูกไล่หรือตี มีลูกศิษย์จะตีให้ก็ไม่ยอมให้ตีบอกแต่เพียงว่าเขาอิ่มแล้วเขาก็ไป คุณลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของท่านก็คือ ท่านไม่เคยขัดศรัทธาของผู้ที่ไปหาท่าน ต้องการให้ท่านทำ หรือช่วยอย่างไร ท่านทำให้ทุกอย่าง ท่านมีวิชาอาคมเวทย์มนต์คาถาแต่ใช้ในทางที่ถูกเท่านั้น ช่วยเหลือ,ป้องกันภัย ไม่ว่าจะลงกระหม่อม ทำน้ำมนต์อาบให้ หรือปลุกเสกเครื่องลางของขลังไว้ป้องกันตัวจากภัย อันตรายต่างๆ ที่ถูกผู้อื่นทำใส่ หรือที่เรียกว่า”คุณไสย” ท่านเป็นทำให้ทั้งนั้น ไม่เคยขัดคำขอร้องของผู้ไปหาเลย อีกประการหนึ่งท่านมีประสาทหูเสีย (หูหนวก) จึงมีสมาธิดีกว่าปกติ เพราะไม่สามารถฟังเสียงรบกวนจากบริเวณใกล้เคียง ของขลังของท่านจึงศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธานุภาพมาก แม้กระทั่งว่าท่านเจ้าคุณพระมหานายก วัดบวรนิเวศ ลูกศิษย์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่าท่านสมเด็จพระญาณสังวร ทรงมีและคาดตระกรุดหลวงพ่อย้อยที่เอวท่านประจำ ปรากฏการณ์ ผลศักดิ์ สิทธิ์และ อภินิหารเป็นที่เลื่องลือในบรรดาลูกศิษย์และคนทั่วไปที่ได้เคยมีประสบการณ์มาแล้ว เช่น 1.คุณศุกลรัตน์ ธนรัตน์ติกานนท์ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้เล่าให้ฟังว่า ได้กำลังเดินข้ามถนน บังเอิญไปคนคนแก่กำลังข้ามจึงได้อาสาช่วยจูงข้าม ระหว่างข้ามถนนนั้นมีรถตู้วิ่งมาอย่างเร็วเบรคอย่างแรงด้วยความตกใจ จนรถเกือบชนอีกไม่กี่นิ้วก็ถึงตัว ซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์นั้นคิดว่ายังไงๆ 2 คนต้องถูกรถชนตายอย่างแน่นอน หลังจากเกิดเหตุคุณศุกลรัตน์ ธนรัตน์ติกานนท์ ได้คุยกับคนขับได้ความว่าที่เบรคนั้นเห็นภาพพระแก่ๆ ข้ามถนนจึงเบรค ไม่ได้เห็นตนเองกับคนแก่ที่ได้จูงข้ามเลย ทั้งๆที่นั้นไม่ปรากฎพระรูปใดๆอยู่เลย แสดงความแปลกใจให้กับคุณศุกลรัตน์ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นึกขึ้นได้ว่าได้แขวนพระเหรียญหลวงพ่อย้อยรุ่น 2 ด้านหลังมีหลวงพ่อขาวไว้ในคอ เพียงองค์เดียว เจ้าตัวจึงศรัทธาในบารมีของหลวงพ่อว่าท่านได้มาช่วยเราปลอดภัย ตั้งแต่นั้นมาพระองค์นี้ไม่เคยห่างกายเลย และยังเป็นที่เคารพศรัทธาตลอดมา 2.ครั้งหนึ่งมีคุณป้าคนหนึ่งเดินทางไปทัศนาจร นครเวียงจันทน์ และตอนกลับได้ซื้อของจากเวียงจันทน์ข้ามฝั่งมาไทยหลายสิ่งหลายอย่าง ปรากฎว่าในคณะที่ไปด้วยกันนั้นถูกด่านตรวจและยึดสิ่งของไปหมด ครั้นตรวจมาถึงคุณป้าคนนี้คนตรวจกลับถามว่าป้ามาจากไหน คุณป้าตอบว่ามาจากสระบุรี คนตรวจถามเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินผ่านไป โดยไม่ได้ตรวจค้นสิ่งของและยึดของเหมือนคนก่อนๆ ปรากฎว่าเพราะคุณป้าคนนี้มีตระกรุดมหาจักรพรรตราธิราชติดตัวไปด้วย และมีเพียงอย่างเดียว ในขณะที่เขากำลังตรวจคนอื่นอยู่นั้นคุณป้าไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยยกมือจับที่ตระกรุดและนึกถึงหลวงพ่อย้อย พร้อมกับรำพึงขอให้หลวงพ่อย้อยช่วยให้แคล้วคลาดไปสักครั้งเถิด (มาจากเรื่องของดีวัดอัมพวัน ในหนังสือพระธาตุเจติยานุสรณ์ ของวัดอัมพวัน คุณไพบูลย์ ชมภูทัพ ผู้เขียน) 3.อีกรายหนึ่งรถคว่ำ ทุกคนบนรถบาดเจ็บล้มตามกัน แต่ตัวเขาเองไม่ได้รับอันตรายใดๆเลย และมีมหาจักรพรรตราธิราชเพียงดอกเดียว หลังจากนั้นไม่กี่วันปรากฎว่าเขาผู้นี้ได้ไปหาหลวงพ่อย้อยที่วัด และขอสั่งจองมหาจักรพรรตราธิราชอีกถึง 10 ดอก(มาจากเรื่องของดีวัดอัมพวัน ในหนังสือพระธาตุเจติยานุสรณ์ ของวัดอัมพวัน คุณไพบูลย์ ชมภูทัพ ผู้เขียน) เคยมีผู้กล่าวว่า ใครมีของขลังของหลวงพ่อย้อยไว้กับตัวไม่ต้องกลัวภัย โดยเฉพาะตระกรุดมหาจักรพรรตราธิราชด้วยแล้ว มีคุณานุภาพมากมายแล้วแต่จะอธิฐานใช้เอา ย่อมเกิดผลให้ทันตาเห็น สมกับที่หลวงพ่อท่านเปรียบเทียบเท่ากับแก้วสารพัดนึกนั่นเทียว แต่ทั้งนี้ต้องใช้ในทางที่ถูกที่ควร และสิ่งที่เป็นไปได้.

 

รายการที่ 416

พระร่วงทรงพล เจ้าคุณนร ฯ ปลุกเสก พิมพ์ใหญ่

พิมพ์ใหญ่แต่ องค์พระ ไม่ใหญ่ ครับ กว้าง ประมาณ 1.6 ซ.ม. สูง 2.6 ซ.ม. เล็กๆ ขนาดพอดีๆ

บูชา 1,450 บาท เมื่อก่อน 2,000 ขึ้น

ของดี หายาก จำนวนสร้างไม่มากครับ แค่5,000 องค์

ประวัติการสร้าง

ท่านพระครูวินัยธรชินเทพ(พระครูวิมลญาณอุดม อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ มรณภาพแล้วเมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๔๖)
ได้นำดินมาจากจังหวัดเชียงใหม่ จัดสร้างพระร่วงทรงพล มีทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ โดยใช้แม่พิมพ์เดิม (เป็นเนื้อโลหะ)
ของท่านพระครูวินัยธรเฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์ พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นแม่แบบ โดยมีเจตนาที่จะหาทุนทรัพย์ช่วยสร้างพระอุโบสถของ
วัดสัมพันธวงศ์ที่ยังค้างอยู่
ส่วนผสมมีดินเชียงใหม่และผงว่านและเกษรดอกไม้ เมื่อนกดพิมพ์เสร็จตามจำนวนต้องการก็ได้นำพระชุดนี้ไปจ้าง
โรงงานเครื่องเคลือบดินเผาแถวอ้อมน้อย ให้ช่วยเผาให้เนื้อพระจึงดูเหมือนกระเบื้องเคลือบ (แบบสังคโลก) โดยสร้าง
ทั้งหมด ๕,๐๐๐ องค์ โดยการทำพิธีปลุกเสก มี ๒ ครั้งใหญ่ ๆ คือ

๑. นำไปมอบให้หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา ปลุกเสก ๑ ไตรมาส (ช่วงเข้าพรรษา ๓ เดือน)
๒. ได้นำเข้าพิธี ณ วัดเทพศิรินทราวาส เพื่อให้เจ้าคุณนรฯปลุกเสกให้ วันที่ 5 ธ.ค.2513
จากนั้นก็นำไปให้หลวงปู่แหวนปลุกเสกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

ได้มอบถวายแด่ท่านเจ้าคุณเทพปัญญามุนี (เฉย) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ 200 องค์ แจกในงานทำบุญอายุ และได้มอบถวาย
ให้วัดอินทรประชาราษฎร์ ปราจีนบุรี แจกในงานทอดกฐินสามัคคีจำนวน 50 องค์
นอกจากนั้นได้แจกให้กับผู้ที่มาทำบุญสร้างโบสถ์วัดสัมพันธวงศ์และมอบให้วัดสัมพันธวงศ์เพื่อจัดหาทุนในการก่อสร้างพระอุโบสถทั้งหมด
พระชุดนี้อยู่ในการดูแลของท่านพระครูวิมลญาณอุดม (ชินเทพ) และภายหลังการมรณภาพของท่าน จึงได้ได้นำออกมาให้ประชาชนได้บูชา
เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างพระอุโบสถสมตามประสงค์ของท่าน
ลักษณะขององค์พระ : เป็นรูปสามเหลี่ยมหยักลอน ๓ ขยัก กว้าง ๑.๗ ซม. สูง ๒.๖ ซม. แบบพระพุทธรูปปรางมารวิชัย สมัยลพบุรี
พระพักตร์กลมโตคล้ายผลมะตูม พระเศียรมีมงกุฏสวม มีพระอุณาโลม เส้นพระขนง พระเนตร พระนาสิก พระโอษฐ์ และพระกรรณทั้ง
สองข้างชัดเจน ทรงเครื่องฉลองพระศอ สังฆาฏิยาวระหว่างพระนาภี พระหัตถ์ทั้งสองข้างมีกำไร หงายพระหัตถ์วางซ้อนกันบนพระเพลา
มีบาตรน้ำมนต์อยู่บนพระหัตถ์ จีวรห่มเฉลียง ข้างวามี ๒ ริ้ว ประทับบนอาสนะดอกบัวรอง ด้านหลังมีเครื่องหมายยันต์ “ตัวเฑาะ” ของ
วัดสัมพันธวงศ์ ด้านหลังจารึก “อะ,อุ,มะ” อันหมายถึงพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง เป็นตัวจมชัดบ้าง เลือนรางบ้าง เนื่องจากการกดพิมพ์
ทุกองค์จะเห็นจุดมวลสารเป็นสีน้ำตาลแก่ เนื้อพระเด่น ๆ มี ๒ สีคือสีเขียวสังคโลกและสีเปลือกไข่ โดยมีจำนวนการสร้าง ๕,๐๐๐ องค์

 

รายการที่ 417

ลูกอมมหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ ปี 2517 หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

บูชา 1,200 บาท

ลูกอมรุ่นนี้ได้สร้างพร้อมกับพระผงอายุยืนเนื้อพิเศษ พระปิดตานะมิ พระรอด พระกลีบบัว ซึ่งเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด
**** แต่ลูกอมมหาลาภของหลวงปู่กลับหายากกว่าพิมพ์อื่น ๆ ไม่ค่อยมีออกมาในท้องตลาดพระเครื่องเท่าไหร่ครับ *** ซึ่งราคาจะแพงที่สุดใน กลุ่มของพระชุดวัดโพธิ์
**** สำหรับหลวงปู่สีแล้วไม่ต้องอธิบายมากครับ สุดยอดพระอรหันต์องค์นึงเลยทีเดียว พระเครื่องของหลวงปู่สีทุกรุ่นราคาไปไกลแล้วครับ อานุภาพของลูกอมลูกนี้ครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา เป็นมหาลาภสมกับชื่อรุ่นครับ