เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 24 มิถุนายน 2025 at 17:25.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,343
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,784
    ค่าพลัง:
    +26,650
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6649.jpeg
      IMG_6649.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      344.2 KB
      เปิดดู:
      14
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,343
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,784
    ค่าพลัง:
    +26,650
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันสบาย ๆ สำหรับพวกเรา เนื่องเพราะว่าทางคณะเติมเต็มทราเวลนัดปลุกตอน ๖ โมงครึ่ง รับประทานอาหารตอน ๗ โมงครึ่ง และเดินทางตอน ๘ โมงครึ่ง

    แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพตื่นเช้าเป็นปกติวิสัย เมื่อล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็เจริญพระกรรมฐานจนครบชุด อุทิศส่วนกุศลตามแบบของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง โดยเฉพาะให้กับ "ท่านอูฐ" และคณะ ซึ่งวันนี้พวกเราจะต้องเดินทางไปถึงบ้านของท่านด้วย แล้วก็แต่งตัว เก็บข้าวของทุกอย่างลงกระเป๋า ลงไปชั้น ๑ เดินเล่นที่บริเวณหน้าโรงแรมเทียนเหอ

    อากาศ ๒๑ องศาเซลเซียส กำลังเย็นสดชื่นมาก ๆ มัวแต่เพลิดเพลินกับการหามุมถ่ายรูป น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ก็ส่งข้อความมาว่า "ห้องอาหารเปิดแล้ว" ทำเอาต้องตาลีตาลานเข้าไป ยื่นบัตรห้องของตนเองให้เขาลงทะเบียนแล้ว ปรากฏว่าห้องอาหารนี้เปิดก่อนเวลา และมีสารพัดอาหารให้เลือกหาแบบไม่อั้น มากมายเกินกว่าที่จะฉันไหว..!

    กระผม/อาตมภาพเลือกเอาผักเป็นส่วนใหญ่ แล้วไปนั่งทางลานข้างนอกห้องอาหาร รับอากาศไป ฉันอาหารไป โดยมีสายตาของนักท่องเที่ยวชาวจีนมองดูด้วยความแปลกใจว่า พระรูปนี้มาจากไหนกันแน่ ? เมื่ออิ่มแล้ว ระหว่างที่รอคนอื่นมาห้องอาหารอยู่ ก็ไปเดินดูสถานที่และถ่ายรูปอีกรอบหนึ่ง จนกระทั่ง ๘ โมงเช้า จึงหิ้วกระเป๋าไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ ซึ่งคนขับรถของเราต้องบอกว่าขยันมาก ๆ เนื่องเพราะว่ามาก่อนเวลาทุกครั้ง พวกเราที่ตรงเวลานัดเสียอีก ที่กลายเป็นช้าเกินไป..!

    เมื่อขึ้นรถแล้ว คุณโบตั๋นแจ้งว่าวันนี้เราจะไปยังทะเลทรายหมิงซาซาน เพื่อที่จะขี่อูฐ และเดินทางไปยังทะเลสาบจันทร์เสี้ยว ปรากฏว่ามีคุณเพชรดาวัลย์ พัสลุผล หรือว่าคุณดาหวัน แม่ของน้องพอร์ช (เด็กชายเสฏฐ์ ชาครวิโรจน์) ที่ใส่ชุดไม่เหมาะสมกับการขี่อูฐมา จึงต้องไปเปลี่ยนเป็นกางเกงให้เรียบร้อยเสียก่อน
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,343
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,784
    ค่าพลัง:
    +26,650
    รถใช้เวลาวิ่งแค่ ๕ นาทีเท่านั้น ก็ไปถึงลานจอดรถหน้าทะเลทรายหมิงซาซาน มิน่าล่ะ..ถึงได้ใจเย็นกันนัก ที่แท้อยู่ใกล้แค่นี้เอง พวกเราตามอาเหมย คังคัง ตลอดจนคุณโบตั๋น ไปรอเวลาซื้อตั๋วเข้าสถานที่ และฉวยโอกาสนั้นถ่ายรูปหมู่เอาไว้ก่อน ระหว่างนั้นก็เห็นบรรดาสาวจีน ทั้งสาวใหญ่ สาวน้อย แต่งตัวในชุดเฟยเทียนหนี่บ้าง ชุดนางสาวจากอาหรับราตรีบ้าง ชนิดจัดหนักจัดเต็มไปตาม ๆ กัน จนให้สงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า "นี่เขาจะไปขี่อูฐกันจริง ๆ หรือ ?"

    เมื่อได้ตั๋วราคา ๑๑๐ หยวนของแต่ละคนมาแล้ว ก็ทำการสแกนตั๋วและใบหน้า ผ่านเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ต้องไปซื้อตั๋วเพื่อขี่อูฐ คนละ ๑๓๐ หยวน ซึ่งอูฐทั้งหลายที่เห็นอยู่หลายพันตัวนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นของชาวบ้านแถวนี้ นำมาร่วมกับทางราชการ ส่วนใหญ่ก็มีครอบครัวละ ๕ ตัวบ้าง ๖ ตัวบ้าง

    คุณโบตั๋นจึงบอกว่า อย่าหวังว่าเราจะได้ไปขบวนเดียวกัน แต่ว่าตั๋วของใครได้ไปขบวนไหนก็ไปขบวนนั้น แล้วไปเจอกันบริเวณที่สุดท้าย ซึ่งเขาจะจัดเอาไว้สำหรับพวกเรารวมพล แล้วจะได้ไปดูทะเลสาบจันทร์เสี้ยวกัน กระผม/อาตมภาพ น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พี่มุกดา (นางสาวมุกดา เพชรชื่นสกุล) น้องไก่ (นางสาวโสภา ตั้งอธิคม) และป้าสุ (นางศุภากาญจน์ หว่อง) ได้ไปขบวนเดียวกัน

    เป็นที่อัศจรรย์ว่าทางเจ้าของอูฐ เป็นตายก็ไม่ยอมให้คนอื่นขี่อูฐขาวที่มีอยู่ตัวเดียวในขบวน แต่ว่ามาดึงกระผม/อาตมภาพไปขี่อูฐขาวตัวนั้น แล้วให้คนอื่น ๆ ขี่อูฐตัวอื่นที่อยู่ด้านหน้าแทน กระผม/อาตมภาพขึ้นหลังเรียบร้อยแล้วก็ส่งกำลังใจถามว่า "เป็นอย่างไรบ้างเพื่อนเก่า ยังสบายดีอยู่หรือไม่ ?" อีกฝ่ายหนึ่งทำเสียงดัง "พรืด" เป็นเชิงตอบรับว่า "สบายดี"

    เจ้าของอูฐเมื่อให้พวกเราขึ้นเรียบร้อยแล้ว ก็เดินจูงอูฐตามขบวนอื่น ๆ เป็นทิวแถวไป กระผม/อาตมภาพอาศัยระลึกถึงความเคยชินสมัยก่อน ๆ จึงสามารถปล่อยมือจากที่จับ แล้วถ่ายรูปด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจ เสียดายที่ว่าคนอื่นทำแบบนี้ไม่ได้..!

    เมื่อเดินไปเป็นระยะทางค่อนข้างจะไกล ตากแดดจนแสบร้อนไปหมด พวกเราทางด้านหลังบางขบวนก็แซงหน้าไปแล้ว จึงวกเดินกลับมาถึงบริเวณที่พัก กระผม/อาตมภาพสลัดเท้าออกจากโกลนได้ ก็ทิ้งตัวลงไปก่อนที่เจ้าของบังคับอูฐให้นั่ง ทำเอาอีกฝ่ายตกอกตกใจว่า "ทำไมต้าซือแสดงอภินิหารแบบนี้ ?" เนื่องเพราะว่ามัวแต่บังคับอูฐตัวแรกให้นั่งอยู่ แต่กระผม/อาตมภาพไม่ได้ว่าอะไร ส่งกำลังใจขอบคุณเพื่อนเก่า แล้วก็เดินไปหลบในร่ม รอเวลาคนอื่นมาสมทบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2025 at 18:56
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,343
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,784
    ค่าพลัง:
    +26,650
    เมื่อมาถึง ทุกคนก็เล่าวีรกรรมของตนเองว่า การขี่อูฐนั้นยากลำบากอย่างไรบ้าง ? ต้องเกร็งตัวจนแทบเป็นตะคริวบ้าง เป็นต้น แต่กระผม/อาตมภาพกลับเจอแมลงปีกแข็งสีดำตัวหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นแมลงทะเลทรายนี่เอง กำลังติดอยู่ในหมู่ขนสัตว์ย้อมสี ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของพรมที่เขาทอเอาไว้ แล้วดึงหลุดออกมาทิ้งอยู่ กลิ้งไปกลิ้งมาอย่างไรก็ไม่หลุด เพราะว่าขาทั้ง ๖ ข้างนั้นล้วนแล้วแต่มีหนามทั้งสิ้น..!

    กระผม/อาตมภาพจึงปล่อยให้คนอื่นคุยกันไป ดูการเล่นพาราไกลเดอร์ไป แต่ตัวเองค่อย ๆ มาปลดเจ้าแมลงปีกแข็งตัวนั้น ออกจากกลุ่มขนสัตว์ แล้วก็เทน้ำให้อีก ๒ - ๓ หยด เจ้านั่นจึงทำท่าแข็งแรงขึ้น เดินหายไปในสารพัดเท้าของคน..!

    พวกเราที่มาถึงส่วนใหญ่ ตรงรี่เข้าไปหาร้านชานมไข่มุก เมื่อซื้อชานมได้แล้ว พวกเราก็เดินทางออกไปอีกระยะไกลไม่น้อย เมื่อมาถึงตรงจุดสุดท้าย คุณโบตั๋นก็นัดแนะว่าให้พบกันที่ตรงนี้ ให้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ใครจะเดินไปทะเลสาบจันทร์เสี้ยวก็ได้ ใครจะขึ้นไปบนเนินทรายหมิงซาซาน เพื่อที่จะเล่นสไลเดอร์ลงมาก็ได้ ใช้เวลาเดินขึ้น ๔๐ นาที ใช้เวลาสไลด์ลงมาแค่ ๒ นาทีเท่านั้น..!

    กระผม/อาตมภาพเลือกไปที่ทะเลสาบจันทร์เสี้ยวแทน แต่เจ้าประคุณเถอะ...นักท่องเที่ยวจีนมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าคุณจะหามุมไหนถ่ายรูปก็ตาม จะต้องติดคนจีนทั้งสิ้น บางคนก็ไม่ได้เกรงใจ รอถ่ายรูปอยู่ก็ถอยมาบังบ้าง เดินชนบ้าง เดินกระแทกบ้าง..!

    เมื่อถ่ายรูปหมู่เรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินขึ้นไปยังหอเก๋งจีน ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายของที่ระลึก หามุมถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจ ค่อยเดินถ่ายรูปวนกลับมาทางด้านเนินทราย ซึ่งมีผู้คนไปเล่นสไลเดอร์กันลงมาจำนวนมาก มานั่งรอที่จุดนัดพบ พร้อมกับถอดถุงเท้ากันทรายที่ทางทัวร์หามาให้ คืนให้กับเจ้าของเขาไป

    รออยู่เป็นเวลาค่อนข้างนาน เนื่องเพราะว่าแต่ละคนที่เดินไปไม่ถึงยังหอเก๋งจีนกลางทะเลทราย เห็นคนอื่นซื้อของฝากแล้วอยากได้ ก็ต้องให้ลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) เจ้าของเติมเต็มทราเวลวิ่งไปซื้อเองบ้าง โทรศัพท์บอกคนอื่นช่วยซื้อให้บ้าง สับสนวุ่นวายกันไปหมด..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,343
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,784
    ค่าพลัง:
    +26,650
    เมื่อมากันครบถ้วนแล้ว พวกเราจึงนั่งรถแบตเตอรี่ วิ่งออกไปทางด้านนอก ลงแล้วผ่านเครื่องตรวจนับจำนวนคน ย้อนไปยังลานจอดรถ ขึ้นรถของเราแล้ววิ่งไปยังร้านอาหารกลางวัน ซึ่งใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น อาหารกลางวันวันนี้อุดมสมบูรณ์มาก แล้วก็อร่อยมากเกือบทุกอย่าง พวกเราก็เลยกวาดกันเสียจนเรียบวุธ แม้กระทั่งมาเป็นอย่างท้าย ๆ ก็ยังอร่อยอยู่ แสดงว่าฝีมือของเขาดีจริง..!

    เมื่อเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารและเข้าห้องน้ำกันแล้ว พวกเราก็กลับมาขึ้นรถ วิ่งตรงไปยังเมืองหลิ่วชวน เพื่อที่จะขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปยังเมืองอูลู่มู่ฉี มณฑลซินเจียง ซึ่งถ้าหากว่านั่งรถบัสไปก็เป็นวัน แต่ถ้านั่งรถไฟความเร็วสูง ใช้เวลา ๒ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น มีการอำลาอาลัยและแซวกันกระจายบนรถ..!

    กระผม/อาตมภาพมอบรางวัลให้กับพลขับ น้องเหมย และคังคัง คนละ ๓๐๐ หยวน ส่วนคุณโบตั๋นยังไปกับพวกเราจึงยังไม่ให้ ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมงก็มาถึงเมืองหลิ่วชวน พวกเราต้องผ่านการตรวจที่เข้มงวดพอ ๆ กับสนามบิน เข้าไปภายในสถานีรถไฟความเร็วสูง อาเหมยกับคังคังก็เข้ามาด้วย เพราะว่าจะขึ้นรถไฟคนละเที่ยวกันเพื่อกลับบ้านของตัวเอง

    พวกเราต้องรอจนกว่าจะถึงเวลา ๑๗.๑๒ น. จึงสามารถที่จะขึ้นรถไฟได้ กระผม/อาตมภาพจึงอาศัยเวลาช่วงนี้ ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ท่ามกลางเสียงประกาศเป็นระยะ ๆ ของโฆษกสถานีรถไฟ ถ้ามีเสียงรบกวนลอดเข้ามาบ้างก็ต้องขออภัยทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วย

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...