เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 7 มิถุนายน 2025 at 10:05.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,768
    ค่าพลัง:
    +26,635
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4580.jpeg
      IMG_4580.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      343.6 KB
      เปิดดู:
      5
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,768
    ค่าพลัง:
    +26,635
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็น "วันหาหมอ" ของเดือนมิถุนายนนี้ ไม่ว่าจะเป็น "การนัดหมอ" หรือว่า "การที่หมอนัด" ก็ตาม แต่ก็หมายความว่าต้องเอาสังขารโทรม ๆ ไปให้หมอบูรณะซ่อมแซม ก่อนที่จะไปอาการก็ต้องหนักเต็มที่ก่อน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าหมอจะตรวจหาไม่เจอ..!

    ดังนั้น..เมื่อคืนกระผม/อาตมภาพที่เพิ่งจะหลับไปได้ไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอน ๓ ทุ่มกว่า เนื่องเพราะว่าฝนตกหนักแล้วน้ำรั่วลงมา จนต้องวิ่งหาภาชนะ หาผ้า มารองน้ำ เช็ดน้ำ เป็นการใหญ่ พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน แจ้งว่า ในช่วงกลางวันจะส่งช่างมาดูให้ แต่กระผม/อาตมภาพเองอยากจะบอกว่าช่างน่าจะหาสาเหตุไม่เจอ เนื่องเพราะว่า
    ปัญหานี้เกิดจากกุฏิเป็นเรือนไทย..!

    กระผม/อาตมภาพเอง สมัยที่อบรมเจ้าอาวาสครั้งแรกที่วัดสามพระยา วรวิหาร มีการกราบเรียนถามพระเถระผู้มาให้การอบรมว่า "มีปัญหาว่าศาลาหรือว่ากุฏิเรือนไทยนั้น มีน้ำฝนรั่วเข้าไปได้ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก แต่ว่าหลังคาไม่รั่ว จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ?"

    ปรากฏว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙ อดีตคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร ท่านเมตตาขอพิธีกรขึ้นมาตอบเองว่า "ให้ควั่นหัวแปเสีย"

    ท่านบอกว่า วัดท่านเองก็มีปัญหานี้ และ
    ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก ท่านต้องไปนอนอยู่ใต้ฝ้าเป็นเวลาหลายวัน เพื่อสังเกตว่าน้ำฝนเข้าไปได้อย่างไร ? จึงเห็นว่าโดยปกติของเรือนไทยนั้น บริเวณจั่วจะมีไม้แปหลังคายื่นออกไป มากน้อยแล้วแต่ขนาดของทรงไทยนั้น ตัวไม้แปที่ยื่นออกไปนี่แหละ เป็นตัวรับน้ำฝนอย่างดี ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะทำให้รั่วได้ แต่พอฝนตกหนัก ๆ เข้า น้ำฝนก็จะไหลย้อยจากหัวแปตามตัวไม้เข้าไป แล้วก็ไปหยดอยู่ในบริเวณฝ้าหลังจั่ว เมื่อน้ำรวมกันมาก ๆ เข้า ก็จะไหลไปบริเวณที่ต่ำหรือว่าที่บริเวณมีรอยแตก แล้วก็รั่วลงไปในตัวอาคาร เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมานี่แหละ..!

    วิธีแก้ไขก็คือต้องควั่นไม้หัวแปให้เป็นร่องโดยรอบ เมื่อน้ำฝนไหลมาถึงขอบร่อง แล้วไปต่อไม่ได้ ก็จะหยดอยู่ภายนอกกุฏิ พูดง่าย ๆ ก็คือไม่เข้าไปในบริเวณจั่วใต้หลังคา
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,768
    ค่าพลัง:
    +26,635
    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าหากว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้านช่างหาไม่เจอ ก็ขอแจ้งกับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยานว่า อาคารของวัดอุทยานเกือบทุกหลังเป็นทรงไทยทั้งสิ้น น่าจะมีปัญหานี้ทุกหลัง ดังนั้น..ให้ทำการควั่นหัวแปบริเวณที่อยู่ใต้จั่ว พูดง่าย ๆ ก็คือใต้ปั้นลมนั่นแหละ ก่อนที่จะเข้าไปถึงภายในจั่ว แล้วทะลุเข้าไปบริเวณใต้หลังคา เมื่อเราทำการควั่นแล้ว น้ำฝนไหลไปไม่ถึง การรั่วทุกอย่างก็จะแก้ไขได้

    จะว่าไปแล้ว ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่ได้ศึกษาวิชาสายหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาจากหลวงปู่ดู่ วัดสะแกแล้ว ก็สามารถที่จะโยงอย่างชัดเจนว่า ศึกษามาจากหลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙ วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหารนี่เอง เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่อบรมอยู่ ท่านเมตตาอยู่ช่วยสั่งสอนทุกวัน แล้วท่านก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่กลั่นโดยตรง..!

    ด้วยความที่ท่านเป็นคนเด็ดขาด พูดอะไรมักจะพูดคำเดียว เมื่อถึงเวลามีปัญหาทางคณะสงฆ์ พรรคพวกเพื่อนฝูงไม่กล้าที่จะเข้าหาท่าน กระผม/อาตมภาพก็ต้องทำตัวเป็น "หน่วยกล้าตาย" เข้าไปกราบเรียนท่าน อย่างเช่นว่า เมื่อมีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นในวงการสงฆ์ เกี่ยวกับการที่พระใช้โทรศัพท์แบบไม่มีกาลเทศะ ท่านก็มีคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง สั่งพระห้ามใช้โทรศัพท์..!

    กระผม/อาตมภาพต้องไปกราบเรียนท่านว่า "พระเดชพระคุณขอรับ ไม่ใช่เกล้าฯ เป็นคนก้าวร้าวต่อพระผู้ใหญ่ แต่อยากจะเรียนถวายว่า เกล้าฯ ไม่ใช่เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่มีเลขานุการช่วยรับโทรศัพท์ ๒ รูป โดยเฉพาะพระต่างจังหวัดนั้น โทรศัพท์แทบจะเป็นเส้นชีวิต ก็คือถ้าไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโทรมา ก็จะเป็นโทรศัพท์จากญาติโยม ที่ติดต่อเพื่อนิมนต์ไปทำศาสนพิธีต่าง ๆ ถ้าพระเดชพระคุณไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์แล้ว พวกเกล้าฯ ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าจะอยู่ได้อย่างไร ?"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,768
    ค่าพลัง:
    +26,635
    เมื่อไปเจอพระเด็ก ๆ กล้าพูดแบบนี้เข้า ท่านก็อึ้งไปพักหนึ่ง แล้วท้ายที่สุดก็บอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถึงเวลาอย่าเดินพูดโทรศัพท์ เพราะว่าดูน่าเกลียด ให้พวกท่านหาที่นั่งให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยรับโทรศัพท์ ใช้เวลาพูดคุยให้น้อยที่สุด เพื่อที่ชาวบ้านเขาจะได้ไม่รู้สึกรำคาญตา"

    กระผม/อาตมภาพก็กราบเรียนเรื่องที่ท่านห้ามเป็นเรื่องที่สองว่า "พระเดชพระคุณขอรับ งานคณะสงฆ์ทุกอย่างที่ทำมา พระเดชพระคุณต้องการรูปเพื่อยืนยันว่าทำจริง และสามารถตรวจสอบภายหลังได้ แต่ไม่อนุญาตให้พระใช้กล้องถ่ายรูป แล้วพวกเกล้าฯ จะทำอย่างไรถึงจะมีรูปมาส่งรายงานพระเดชพระคุณละขอรับ ?" ท่านบอกว่า "เรื่องนี้ไม่รีบด่วน โดยเฉพาะงานคณะสงฆ์ ท่านสามารถที่จะขอให้ฆราวาสที่อยู่ในงานเขาช่วยถ่ายรูปให้ได้ แค่ ๒ รูป ๓ รูปก็พอที่จะส่งรายงานได้แล้ว ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปถ่ายด้วยตนเองให้เสียกิริยา"

    กระผม/อาตมภาพจึงเล็งเห็นว่า
    พระผู้ใหญ่นั้นท่านรอบคอบมาก ถ้าหากว่าเรากล้าพูด กล้าคุย และมีเหตุผลที่ชัดเจน ท่านก็เมตตาที่จะพิจารณาและปรับปรุงแก้ไขคำสั่งของท่านได้ แต่ถ้าหากว่าเหตุผลของท่านดีกว่า เราก็ต้องยอมรับเช่นกัน

    อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่าตอนนั้นท่านเป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง แล้วหลวงพ่อพระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม ซึ่งภายหลังก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ. ๙, Ph.D.) ซึ่งขึ้นมารับหน้าที่เจ้าคณะใหญ่หนกลางต่อจากท่าน

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการามนั้น ท่านสนับสนุนเรื่องกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่กระผม/อาตมภาพก็ได้รับการฝึกฝนให้เป็นพระธรรมทูตสายวิปัสสนา รุ่นที่ ๑ ต้องไปปฏิบัติแบบพองหนอยุบหนอ ที่ยุวพุทธิกสมาคมแห่งที่ ๒ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นเวลาถึง ๑๘ วัน..!

    โดยที่ผู้เข้าร่วมอบรมพระธรรมทูตสายวิปัสสนา รุ่นที่ ๑ นั้น ประกอบด้วยพระภิกษุสงฆ์จากหนกลางทั้งหมด ๘๗ รูป ผ่านการอบรมอย่างแท้จริง ได้รับประกาศนียบัตรพระธรรมทูตแค่ ๑๕ รูปเท่านั้น..! เมื่อตอนที่ทางเจ้าหน้าที่ของยุวพุทธิกสมาคมแห่งที่ ๒ จังหวัดปทุมธานี ท่านสัมภาษณ์ความรู้สึก กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะรู้ว่าตนเองสอบได้ที่ ๑ นั่งงงอยู่เป็นนานว่า "ทำไมเราได้ที่ ๑ ไปได้ ?"
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,768
    ค่าพลัง:
    +26,635
    ในเมื่อท่านสนับสนุนเรื่องของการเจริญพระกรรมฐาน และไปสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมโมลี ที่ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ท่านจึงเสนอทางมหาเถรสมาคม โดยเฉพาะพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะใหญ่หนกลางในตอนนั้นว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ขอให้เจ้าอาวาสใหม่ปฏิบัติธรรม ๓ เดือน..!

    พวกกระผม/อาตมภาพได้ยินก็แทบจะช็อคตาย เนื่องเพราะว่าตอนที่ปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธิกสมาคม จังหวัดปทุมธานี ๑๘ วันนั้น กระผม/อาตมภาพได้รับคำชมเชยจากครูบาอาจารย์ว่า เป็นพระที่กำหนดภาวนาได้ทั้ง ๔ อิริยาบถ โดยเฉพาะอิริยาบถยืนหนอนั้น กำหนดได้นานมาก ซึ่งความจริงไม่ใช่..!

    กระผม/อาตมภาพพอปฏิบัติไปนาน ๆ แล้วเกิดความเครียดขึ้นมา จึงไปยืนมองทุ่งนาที่นอกหน้าต่าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ มองละเอียดถึงขนาดเห็นว่า ในทุ่งนานั้นมีนกกระยางกรอกออกหากินเป็นประจำอยู่ ๔ ตัว แล้วเจ้านกกระยางพวกนี้นั้น สีสันก็ใกล้เคียงกับธรรมชาติมาก แถมยังทำตัวเข้ากับธรรมชาติอีก ก็คือพอลมกรรโชกมา ก็โยกคอตามแนวที่รวงข้าวเอนลู่ตามลมไป พอลมหยุดกระโชก ก็โยกคอกลับมาตั้งตรงตามเดิม

    ในเมื่อมองเพลินก็เลยยืนนานเป็นชั่วโมงแบบไม่รู้ตัว พอกำลังใจคลายลงค่อยปฏิบัติธรรมต่อ ไม่รู้หรอกว่าการที่ตนเองยืนมองธรรมชาตินั้น ครูบาอาจารย์ฟันธงว่า "ยืนหนอได้ยอดเยี่ยมมาก" ในเมื่อแค่ ๑๘ วันก็จะอกแตกตายแล้ว ถ้าเจอ ๓ เดือนมีหวังตายแน่นอน พรรคพวกเพื่อนฝูงก็ถีบกระผม/อาตมภาพออกหน้าไปตามเคยว่า "มึงไปช่วยชี้แจงให้หลวงพ่อท่านลดวันลงมาให้ด้วย"

    กระผม/อาตมภาพจึงต้องนัดแนะกับเลขานุการ ซึ่งปัจจุบันก็คือพระเดชพระคุณพระเทพรัตนสุธี (ปัญญา สิริปญฺโญ ป.ธ. ๔) วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหารนั่นเอง เมื่อได้รับวันเวลาว่าให้เข้าอธิบายกับท่านในตอนไหนได้ ก็เดินทางไปกราบเรียนท่าน
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,768
    ค่าพลัง:
    +26,635
    เมื่อพบหน้าท่านสอบถามถึงปัญหา จึงกราบเรียนว่า "เรื่องที่พระเดชพระคุณมีคำสั่งให้เจ้าอาวาสใหม่ต้องไปเข้ากรรมฐาน ๓ เดือนครับ เกล้าฯ ศึกษาในเรื่องของจริยาพระสังฆาธิการแล้ว ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสใหม่ทิ้งงานออกจากสถานที่รับผิดชอบตามตำแหน่งไปเกิน ๓๐ วัน ถือว่าผิดจริยาอย่างร้ายแรง ต้องโดนถอดออกจากเจ้าอาวาสเลยขอรับ" ท่านบอกว่า "พวกท่านไปปฏิบัติตามคำสั่งของกระผม ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ถือว่าผิดจริยาพระสังฆาธิการ"..!

    กระผม/อาตมภาพจึงต้องหาแนวทางใหม่ กราบเรียนท่านใหม่ว่า "พระเดชพระคุณขอรับ เจ้าอาวาสใหม่ส่วนใหญ่แล้วเก้าอี้ยังไม่แน่น ถ้าหากว่าหายจากวัดไป ๓ เดือน กลับวัดไป เกล้าฯ มั่นใจว่าไม่มีเก้าอี้เหลือให้นั่งอย่างแน่นอนขอรับ..!" ท่านก็เงียบไปพักหนึ่ง แล้วท้ายที่สุดก็บอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พบกันคนละครึ่งทาง เอาแค่ ๔๕ วันก็พอ..!"

    พอกระผม/อาตมภาพออกมาแจ้งผล บรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงก็ไชโยโห่ร้องกันเป็นการใหญ่ กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไอ้ห่..ทีจะให้เข้าไปกราบเรียนถวายท่าน พวกมึงก็ไม่เอา แต่พอผลดีเกิดขึ้นมึงก็ดีอกดีใจกัน" เพื่อน ๆ บอกว่า "กูไม่โง่เหมือนมึงนี่หว่า กูไม่พอใจแต่กูไม่พูด ปล่อยให้มึงไปตายแทน..!"

    กระผม/อาตมภาพรู้สึกว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงของตนเองนั้นช่างจริงใจเป็นอย่างยิ่ง ไอ้เจ้าพวกนี้น่าจะจัดอยู่ในประเภท "เพื่อนกิน" เท่านั้น อย่าไปหวังให้เป็น "เพื่อนตาย" เลย เหล่านี้เป็นต้น
     
  7. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,768
    ค่าพลัง:
    +26,635
    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ที่พวกกระผม/อาตมภาพได้รับการขัดเกลามาจากพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙) วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร จึงอยู่ในลักษณะของบุคคลที่ค่อนข้างจะแม่นต่อระเบียบวินัย พูดง่าย ๆ ว่าสามารถกล่าวได้เต็มปากว่า "เป็นลูกศิษย์ที่ท่านอบรมมากับมือ" แม้แต่รับประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรมเจ้าอาวาสจากมือของท่าน ก็มีรูปถ่ายเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน เป็นต้น

    เพียงแต่ว่าในปัจจุบันนี้ การปฏิบัติธรรมได้ลดน้อยถอยลงมาเรื่อย จนกระทั่งปัจจุบันก็เหลืออยู่ประมาณ ๗ วันเท่านั้น กระผม/อาตมภาพยังรู้สึกเสียดายแทนเจ้าอาวาสรุ่นหลัง ๆ ว่า "พวกคุณเกิดช้าไป เรื่องที่ควรจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของพระสงฆ์ เราควรจะได้ทำเพื่อเป็นกุศลใส่ตัว และศึกษาความรู้เอาไว้เพื่อสอนญาติโยมต่อไป คุณก็ได้ทำแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง..!"

    จะพูดถึงเรื่องฝนรั่วแล้วต้องไปหาหมอเพราะว่าอดนอนทั้งคืน กลายเป็นว่าระหว่างที่นั่งรอหมออยู่นั้น ต้องมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ลากยาวไปถึงสมัยอบรมพระธรรมทูตสายวิปัสสนา รุ่นที่ ๑ การอบรมเจ้าอาวาสใหม่ ตลอดจนกระทั่งแนวทางในการแก้ไขปัญหาของพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙) มาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้ ?

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...