เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๘

​

 

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเป็นเวลา ๖ อาทิตย์ หรือประมาณเดือนครึ่ง กระผม/อาตมภาพจะมีอบรมเพิ่มความรู้วิชาพระไตรปิฎกศึกษา ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เวลา ๑ ทุ่ม ถึง ๓ ทุ่ม อนุญาตให้ขาดได้ครั้งเดียว..!

"ตาย ๆ ๆ ๆ" ไม่เป็นไรหรอก กระผม/อาตมภาพทำคะแนนเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ทุกครั้งที่เขาอบรมนั่นแหละ..! มีวิธีครับ เพียงแต่ค่อนข้างขี้โกงหน่อย อย่างเช่นว่า ถ้าเราจะไปห้องน้ำห้องท่าอะไร ก็ตั้งพร็อพรูปตัวเองเอาไว้ กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่นั่งนิ่งครับ เพราะฉะนั้น..รูปพร็อพหรือว่ารูปตัวเองก็ไม่แปลกเท่าไรหรอก ยกเว้นถ้าใครสังเกตจะเห็นว่า รูปจริงกระพริบตาเท่านั้นเอง..!

วันนี้มากล่าวถึงเรื่องที่ FC ทั้งหลายรออยู่ก็คือไทยรบกับเขมร เฮ้อ..เรื่องดี ๆ ไม่รอกัน ไม่ต้องไปพูดถึงตำนานพระเจ้าเลียบโลก ที่กล่าวว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปถึงที่แห่งนั้นแล้ว ให้การพยากรณ์ว่าบรรพบุรุษของชนชาตินั้นเป็นสัตว์ตะกวด มีลิ้นสองแฉก ดังนั้น..จึงเจรจาความกับใครแล้วไม่สามารถที่จะไว้ใจได้เลย เรื่องนี้เราไม่พูด..!

หรือว่าในประวัติศาสตร์ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (สม-เด็ด- พระ-นะ-เรด-วะ-ระ-มะ-หา-ราด) เอาพระยาละแวกมาตัดศีรษะ เอาเลือดล้างพระบาทให้หายแค้น..! เพราะว่าเวลามีศึกเสือเหนือใต้ติดทางมุมไหนก็ตาม ฝั่งโน้นจะต้องบุกเข้ามากวาดต้อนผู้คนบ้าง ยึดบ้านยึดเมืองบ้าง ตอดเล็กตอดน้อยอยู่ตลอดเวลา เมื่อครู่นี้กระผม/อาตมภาพพูดชัด ๆ แล้วนะ สม-เด็ด-พระ-นะ-เรด-วะ-ระ มะ-หา-ราด ที่พวกคุณอ่านว่า สม-เด็ด-พระ-นะ-เร-สวน-มะ-หา- ราด นั่นแหละ..!

ไม่เป็นไรหรอก ภาษาไทยนั้นดิ้นได้ ภาษาที่กระผม/อาตมภาพเคยเรียนแล้วดิ้นไม่ได้เลยก็คือภาษาสันสกฤต เพราะว่าเขามีตัวขีดบน ที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า "บาร์" ขีดไปแค่ไหนก็อ่านไปแค่นั้น ไม่มีโอกาสอ่านผิดหรอก ป.ปลาตากลม (ตา-กลม) ไม่มีทางที่เป็น ป.ปลาตากลม (ตาก-ลม) ไปได้หรอก

เรื่องพวกนี้เราจะไม่พูดถึงเพราะว่าไกลตัวจนเกินไป แต่ว่าอันดับแรกเลย อยากให้ท่านทั้งหลายดูเรื่องใกล้ ๆ ที่ไม่นานนี้ ช่วงที่เขมรแดงซึ่งสนับสนุนโดยเวียดนามบุกเข้ายึดกัมพูชา จับบรรดาข้าราชการระดับสูงและผู้มีความรู้ไปเข้าค่ายสัมมนาที่ตุลสะแลง ตลอดจนกระทั่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปเป็นล้านศพ..! เพราะฉะนั้น..ทุกท่านไม่ต้องแปลกใจหรอก ไอ้ที่เหลือจึงมีแต่พวกโง่ ๆ ทั้งนั้นแหละ..! ผู้นำบอกอะไรก็เชื่อหมด เพราะฉะนั้น..รัฐบาลเขาบอกให้เป็นศัตรูกับไทยเขาก็เป็น..! นี่กระผม/อาตมภาพพูดแรงไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?

 

แต่อยากจะบอกว่า เวลาพวกเราฟังเรื่องอะไรก็ตาม อย่าใส่อารมณ์ตามไปด้วย เพราะว่าอันดับแรก จะทำให้สูญเสียข้อเท็จจริงและความยุติธรรม ประการที่สอง เป็นโทษหนักสำหรับนักปฏิบัติ ก็คือสร้าง รัก โลภ โกรธ หลง ให้เกิดแก่ใจของเราเอง

ดังนั้น..เรื่องที่ทุกคนยุให้กองทัพไทยรบเขมร ช่วยกันด่านายกรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องของกระแสโซเชียลไป ส่วนไอ้ที่ไปตั้งคำถามว่า "ทหารมีไว้ทำอะไร ?" ตอนนี้เขารู้ชัดแล้วว่าทหารต้องทำหน้าที่อย่างไร ?

เราจะเห็นว่าบทบาทของท่านแม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นที่ "ได้ใจ" ชาวบ้าน แต่ถ้าถามว่าให้ท่านแม่ทัพสั่งรบเลยหรือ ? รอไปก่อน..การรบในสมัยนี้ไม่ใช่ว่าเราแสนยานุภาพเหนือกว่าเขมรแล้วลุยเข้าไปเฉย ๆ สังเกตุไหมว่าอิสราเอลรบฮามาสมานานเท่าไร ? รัสเซียรบยูเครนมานานเท่าไร ? ทำไมไม่จบไม่สิ้นเสียที ? ก็เพราะว่าแต่ละฝ่ายล้วนแล้วแต่มีคนหนุนหลัง พร้อมที่จะหาประโยชน์จากสถานการณ์เหล่านั้นเสมอ แหย่ให้พวกเราทะเลาะเบาะแว้งกันให้ได้ เพื่อที่จะใช้สถานการณ์นั้นให้เกิดประโยชน์แก่ฝ่ายตน ต่อให้ไม่มีอะไรขายอาวุธให้ก็ยังดี..!

กระผม/อาตมภาพเจอมาด้วยตนเอง อยู่ประจำด่านตรวจ เห็นรถบรรทุกน้ำมันวิ่งเข้าวิ่งออก เขาถือบัตร ฉก.๘๐ (หน่วยเฉพาะกิจ ๘๐) นึกเอาก็แล้วกันว่ายุคไหน ? ยุค ๘๐..!

กระผม/อาตมภาพสงสัยมาก วันนี้กูไม่สนใจบัตรเบ่ง..ขอค้น..! ปีนขึ้นไปเปิดถังน้ำมันดู ไม่มีน้ำมันสักหยด เห็นอะไรอย่าให้บอกเลย ไม่ถึง ๓ นาทีมีวิทยุด่วนมาจากค่ายใหญ่ที่เขาอีด่าง เพราะว่าเขามีเรดาร์ ตรวจสอบได้ทุกซอกทุกมุม เสียงประเภทโหดสุด ๆ ดังมาว่า "มึงเห็นอะไรลืมไปเลยนะ แล้วปล่อยมันไปเดี๋ยวนี้..!" จบแค่นั้น แล้วไอ้นั่นวิ่งเข้าวิ่งออกกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ ? เพราะว่าถึงเวลาไม่ใช่เวรกระผม/อาตมภาพ เวรคนอื่นก็ไปแบบนั้นทุกบ่อย..!

เพียงแต่กระผม/อาตมภาพเป็นคนขี้หมั่นไส้ครับ นี่แผ่นดินไทยของกู อยู่ ๆ ฝรั่งมาถึง ชูบัตร ฉก.๘๐ แล้วก็จะผ่าน ชูบัตร World Food Program แล้วจะผ่าน ชูบัตรข้าหลวงใหญ่สำนักงานผู้ลี้ภัยสหประชาชาติแล้วจะผ่าน มึงรอไปเถอะ..กูตรวจทุกคัน..! เจ้านายด่าก็ด่าไป หรี่เสียงวิทยุให้เบาหน่อย กูก็ไม่ค่อยได้ยินแล้ว..!

 

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ขอให้เรารู้ว่า บรรดามิตรประเทศต่าง ๆ ที่แสดงการเข้าข้างเรานั้น เป็นการแสดงออกทางการทูตครับ ท่านทั้งหลายต้องดูตัวอย่างพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งก่อนหน้านี้คือพลตรีชาติชาย ชุนหะวัณ เมื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ โปรดเกล้าพระราชทานยศพลเอกให้

พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ท่าน "เปลี่ยนสนามการรบเป็นสนามการค้า" อย่างหนึ่ง ด้วยความที่เป็นทูตมาเป็นสิบ ๆ ประเทศ เพราะคนกันไม่ให้ท่านใหญ่ เนื่องจากว่าพ่อของท่านก็คือจอมพลผิน ชุณหะวัณ จึงไล่ท่านไปเป็นทูตทหาร จากประเทศโน้นครบกำหนดก็โยกไปประเทศโน้น ประเทศนี้ไปเรื่อย

ท่านบอกว่าหลักการทูตก็คือ "รับปากทุกอย่าง แต่ไม่ทำ" "พูดให้ชัด แต่เตะไม่ถึง" เพราะฉะนั้น..เราจะได้ยินว่า เขาเรียกพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ว่าเป็น "ท่านนายกฯ ปลาไหลใส่สเก็ต"..!

ดังนั้น..ถ้าเรารบเขมร ไม่ใช่ว่าประเทศที่เขาเข้าข้างเราจะเดือดร้อน แต่ประชาชนไทยนั่นแหละที่จะเดือดร้อน..! เพราะว่าเดี๋ยวนี้ไม่ได้ถือหอกถือดาบไปประจัญบานกัน ขีปนาวุธลูกหนึ่งล่อไปเป็นแสนเป็นล้าน ไม่กี่ตูมเงินก็จะหมดคลังแล้ว..!

ทุกวันนี้เราจะเห็นว่าทางยุโรปและอเมริกาพยายามที่จะลากเกมยาว หนุนยูเครนเพื่อที่จะทำลายศักยภาพในการรบของรัสเซียให้มากที่สุด พยายามช่วยกันสนับสนุนอิสราเอล เพื่อที่จะสะกดบรรดามุสลิม อันนี้กระผม/อาตมภาพว่าเขาคิดผิด โดยเฉพาะไปถล่มอิหร่าน เขายังไม่รู้ถึงความรักกันของพี่น้องอิสลาม..!

อิสลามิกชนทั่วโลกคือพี่น้องกันครับ คุณทำร้ายใครคนหนึ่ง ที่เหลือถือว่าโดนเหมือนกันหมด..! แล้วเห็นสหรัฐแสดงออกให้ชาวโลกดูอย่างไร ? บอกอิสราเอลว่า "อย่าทำ อย่าทำ" แต่กูส่งอาวุธทุกอย่างให้..! ส่งเครื่องมือป้องกันทุกอย่างให้..!

 

ดังนั้น..ในโลกยุคที่ใครกำปั้นใหญ่กว่า คนนั้นเสียงดัง ไม่ได้หมายความว่ากำปั้นใหญ่กว่าจะชนะ เพราะว่าต่างฝ่ายต่างมีคนหนุนหลัง

วิธีที่ดีที่สุดก็คืออย่าโง่ให้เขาปั่นหัวได้ ใช้วิธีเดียวกับที่พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณว่า "ทำสนามการรบให้เป็นสนามการค้า" อะไรขายได้กูขายหมด..!

สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ชายแดน ตอนนั้นบุหรี่ยังเป็นกรุงทอง ๘๕ กับสามิต ๑๔ ซองละ ๖ บาท ปัจจุบันนี้กี่ตังค์ ? ใครดูดบุหรี่บ้าง ? จะเป็น ๑๐๐ บาทแล้วกระมัง ? แล้วรู้ไหมว่าปีที่บุหรี่ซองละ ๖ บาท ชายแดนเขาขายซองละ ๑๒๐ บาท..! อะไรที่หาไม่ได้ของก็จะแพง ซิปวีนัสตัวหนึ่งยาวประมาณ ๖ นิ้ว ตัวละ ๖๐ บาท..! ปีนั้นทองคำบาทหนึ่งประมาณ ๒ พันนิด ๆ เท่านั้นเอง..!

ดังนั้น..ในเรื่องของการที่จะรบเอาความสะใจ จะกลายเป็นความเดือดร้อนแทน เราจะเห็นว่าทหารดำเนินการวิธีไหน ? ปิดด่าน..เพราะว่านั่นคือเส้นทางชีวิตของเขา ประเทศของเขาไม่สามารถที่แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนได้ ชาวบ้านจะเดินขบวนประท้วงรัฐบาล ก็ต้องหาศัตรูให้ชาวบ้าน ไม่มีวิธีไหนดีกว่าโยนขี้ให้ประเทศไทย..! ทุกคนรู้ แต่คนเขมรไม่รู้ เพราะว่าโดนการประชาสัมพันธ์ปิดหูปิดตาหมด..!

เนื่องเพราะว่าพวกฉลาด ๆ ตายไปตอนสงครามเขมรหมดแล้ว ไอ้ที่เหลือโง่ทั้งนั้น..! รัฐบาลพูดอะไรกูเชื่อหมด ถึงขนาดทำคลิปมาเยาะเย้ยว่า "คนไทยมีข้าวกินหรือเปล่า ?" "ปิดด่านแล้วอดอยากมากไหม ?" เรื่องที่เขาพูดจริง ๆ เป็นเรื่องที่เราควรจะถามเขานะ แต่พวกคุณเห็นไหมว่า เรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์นั้นสำคัญแค่ไหน ?

 

เพียงแต่ว่าทหารของเรายังไม่ใช้วิธีเด็ดขาด ก็คือปิดทุกอย่างเลย ถ้าหากว่าตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดอาหาร ตัดน้ำมัน เขมรจะแย่ไปครึ่งประเทศเป็นอย่างน้อย เพราะว่าสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากฝั่งไทย

แต่คุณอย่าไปคิดว่าประเทศลาวเข้าข้างไทย ประเทศเวียดนามเข้าข้างไทย ไอ้นั่นเป็นวิธีการทางการทูต ลาวนั่นแหละเผลอเมื่อไรก็กัดไทยเมื่อนั้น โรงเรียนของเขาสอนให้คนลาวเกลียดไทยตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า "ไทยไปตีบ้านตีเมืองเขา ยึดพระแก้วมรกตของเขาไป" เวียดนามก็สอนให้คนของเขาเห็นไทยเป็นคู่แข่งโดยตลอด ทุกอย่างพยายามที่ให้คนเขาเชื่อว่า "ช่วยกันทำอีกนิดเดียวก็จะเจริญกว่าไทยแล้ว"

ดังนั้น..ในเรื่องของทางการทูตเป็นเรื่องที่เชื่อไม่ได้ เป็นบทบาทที่แสดงออกให้ชาวโลกเขารู้ แต่ว่าทหารของเราจะมีฝ่ายเสนาธิการ ซึ่งจะต้องเป็นคนที่สุขุม รอบคอบ ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน แล้วก็ให้คำแนะนำแก่ผู้บังคับบัญชา ให้เลือกเอาสถานการณ์ที่ดีที่สุดต่อส่วนรวมในช่วงนั้น ก็คือดีต่อประเทศชาติของเรา ไม่ใช่ดีต่อนายกรัฐมนตรี หรือครอบครัวของนายกรัฐมนตรี ไปกันใหญ่แล้วกู..เดี๋ยวก็เดือดร้อนจนได้..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)