**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ร่วมบุญเหรียญ "มงคลรัตนมาลาโลกนาถ" 1 ชุดครับ

 

ขอจองร่วมบุญเหรียญมงคลรัตนมาลาโลกนาถ 1 ชุดครับ

 

ร่วมบุญเหรียญมงคลรัตนมาลาโลกนาถ 1 ชุดครับ

 

ร่วมบุญเหรียญ มงคลรัตนมาลาโลกนาถ จำนวน 2 ชุด

 

2 ชุด

 

1ชุดครับ

 

ร่วมบุญจองเหรียญรัตนมงคลโลกนาถ 2 ชุด

 

ร่วมบุญเหรียญมงคลรัตนมาลา 1 ชุดครับ

 

1ชุดครับ

 

ร่วมบุญ2 ชุด จองเหรียญรัตนมงคลโลกนาถ

 

ร่วมบุญเหรียญมงคลรัตนมาลา 1 ชุด ครับ

 

ขออนุญาตปิดยอดร่วมบุญรับ
เหรียญมงคลรัตนมาลาโลกนาถ
31 พฤษภาคม 2568
**********


************************************​

- บานชื่น 1
- somsakasat 1
- lerd 2
- shaj 1
- ddon7650 1
- popularity 2
- Cajun 2
- SIR2010 2
- พลานุภาพ 1
- pcharn 2

*******************
ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับท่านสมาชิกทุกท่าน ที่ทั้งจองทันและไม่ทันด้วยนะครับ ที่มีจิตอันเป็นกุศลถือว่ามาร่วมสร้างวัตถุมงคลไว้สืบวิชาและปัจจัยก็ถือเป็นเหตุในการร่วมบุญสร้างกำแพงแล้วกันนะครับ

ท่านสมาชิกที่มีรายชื่อสามารถโอนปัจจัยได้เลยนะครับ

-------------​

....และต้องขออภัยท่านสมาชิกที่จองไม่ทันด้วยนะครับ ทีแรกผู้เขียนก็กะว่าจะให้จองท่านละ 1 ชุดครับ แต่ด้วยเห็นว่ามีชนวนมวลสารมาเพิ่มเลยขยายเป็นจำกัด 2 ชุดแทนครับ(คิดว่าคงมีคนจองไม่ถึงครับ) แต่ก็ต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตด้วยครับ ที่ร่วมจองกันครับ **ไว้ถ้าหลุดจอง ท่านสมาชิกที่จองในลำดับถัดไปก็จะได้สิทธิแทนนะครับ

ต้องขอขอบคุณและขออภัยท่านสมาชิกที่ไม่ทันด้วยครับ
อนุโมทนาครับ

​

 

จอง1ชุดครับ

 

ขออนุญาตปิดยอดร่วมบุญรับ
เหรียญมงคลรัตนมาลาโลกนาถ
1 มิถุนายน 2568
**********

************************************​

- บานชื่น 1 โอนปัจจัยแล้ว
- somsakasat 1 โอนปัจจัยแล้ว
- lerd 2 โอนปัจจัยแล้ว
- shaj 1 โอนปัจจัยแล้ว
- ddon7650 1 โอนปัจจัยแล้ว
- popularity 2 โอนปัจจัยแล้ว
- Cajun 2 โอนปัจจัยแล้ว
- SIR2010 2 โอนปัจจัยแล้ว
- พลานุภาพ 1 โอนปัจจัยแล้ว
- pcharn 2 โอนปัจจัยแล้ว

*******************​

ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับท่านสมาชิกทุกท่าน ที่ทั้งจองทันและไม่ทันด้วยนะครับ ที่มีจิตอันเป็นกุศลถือว่ามาร่วมสร้างวัตถุมงคลไว้สืบวิชาและปัจจัยก็ถือเป็นเหตุในการร่วมบุญสร้างกำแพงแล้วกันนะครับ

ท่านสมาชิกที่มีรายชื่อสามารถโอนปัจจัยได้เลยนะครับ​

**ไว้ถ้าหลุดจอง ท่านสมาชิกที่จองในลำดับถัดไปก็จะได้สิทธิแทนนะครับ
-------------​

...ท่านสมาชิกหลายท่านแจ้งเข้ามายังข้อความของผู้เขียนหลายท่านมากเลยครับว่า "จองไม่ทันบ้าง จัดสร้างน้อยไปบ้าง เปิดจองเวลาคลาดเคลื่อนไปไหม? อะไรทำนองนี้มากมายครับ" ผู้เขียนขออนุญาตเรียนชี้แจ้งดังนี้เลยครับว่า..

1.จำนวนสร้างที่น้อย แต่มีหลายท่านอยากได้ไว้บูชา จริงๆผู้เขียนก็อยากจัดสร้างให้ได้จำนวนมากๆเหมือนกันครับจะได้เพียงพอต่อท่านสมาชิกทุกท่านที่มีความศรัทธา แต่อย่างที่ทราบครับว่า "จำนวนชนวนมวลสาร" ตามตำราท่านบังคับไว้มีจำนวนที่จำกัดมากๆ จะสร้างนอกจากนั้นก็ไม่ได้(ท่านอาจารย์เจ้าของตำราท่านไม่อยากให้ทำเกินครู) ถึงแม้ว่าผู้เขียนมาทราบตอนหลัง(มีสมาชิกส่งมาให้ดู) ว่ามีบางสำนักสร้างเยอะมากแต่ใช้เพียงแผ่นจารรัตนมาลาเพียงแผ่นเดียวก็ตาม เพื่อจำหน่ายออกกมาให้ได้จำนวนปัจจัยมากๆ แต่ถ้าเราจะสร้างเพื่อสืบวิชาก็ต้องตามตำราให้มากที่สุดครับ จริงๆผู้เขียนก็อยากได้ปัจจัยมากๆถวายวัดเช่นกันครับ(เพราะด้วยสร้างน้อยหักค่าใช้จ่ายแล้วเผลอๆยังเข้าเนื้ออีก) แต่เมื่อได้สร้างแล้วก็ต้องตามตำรา ท่านที่นำไปบูชาก็จะได้สบายใจและภูมิใจที่มีวัตถุมงคลที่สร้างตามตำราแท้ๆครับ(ซึ่งส่งผลต่อพลังงานด้วยครับ)

2.เวลาที่คลาดเคลื่อนไป? จริงๆแล้วสมาชิกทุกท่านเคารพกติกาตรงนี้ทุกท่านครับไม่มีท่านใดจองก่อนเวลาเลยครับ แต่ด้วยเวลานอกเว็ป(คือเวลานาฬิกาที่บ้านท่าน) กับเวลาในบอร์ดไม่ตรงกันครับ(อาจเกิดจากความไม่เสถียรของระบบ) ตอนจองหน้าบอร์ดเวลาที่แสดงผลเหมือนกับว่าจะคลาดเคลื่อนไปจากเวลาจริง ซึ่งตรงนี้ผู้เขียนดูจากเวลาหน้าคอมที่บ้านผู้เขียนเองครับ ดังนั้นจึงตรงเวลาจองแน่นอนครับ

...แต่ทั้งนี้ก็ต้องขออภัยท่านสมาชิกที่มีความตั้งใจ แต่จองไม่ทันด้วยนะครับซึ่งด้วยความจำกัดของอะไรหลายๆอย่างจึงมีความจำเป็นในการจัดสร้างเท่านี้ครับ

ขออนุโมทนากับสมาชิกทุกท่านด้วยครับ​

 

ในวันนี้ 3-4 / 6 / 2568
ผู้เขียนได้จัดส่ง
"เจ้าสัวธรรมเศรษฐี"
ให้สมาชิกทุกท่านที่ร่วมบุญครบทุกท่านแล้วนะครับ ส่วนท่านใดอยากได้รหัสไปรษณีย์สามารถแจ้งขอรับทาง PM ได้เลยครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

************************​

....เจ้าสัวธรรมเศรษฐีรุ่นนี้ สร้างและเสกตามตำราของท่านเจ้าคุณจันทร์ สิริจันโท ที่สร้างตามตำราพระเศรษฐีนวโกฏิและผนวกกับตำรา "เอตทัคคสูตร" ว่าด้วยท่านอุบาสก-อุบาสิกา ที่ช่วยอุปถัมภ์พระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองในสมัยพุทธกาล

....ซึ่งตรงนี้ผู้เขียนทำเอกสารไม่ทันนะครับ เมื่อจัดทำเสร็จจะจัดส่งให้สมาชิกทุกท่านในภายหลังครับ

....ท่านที่ได้ไปบูชาลองนำไปสวดมนต์(บทเฉพาะนี้) ดูนะครับอะไรๆหลายๆอย่างจะรู้สึกคล่องตัวราบรื่นมากขึ้น และมีโชคมีลาภ ไว้เป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปครับ

ปล.ตัวผู้เขียนไม่เคยถูกหวยเลย งวดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เลยลองซื้อ 20,02(หวยออก 20) ก็พอได้ต่อบุญ 2 ใบอยู่ครับ(เลขซื้อตามจำนวนสร้างรุ่นนี้ครับ 120 องค์)
​

******************
คาถาเศรษฐีนวโกฏิตามตำราเดิมครับ
(ได้แนบไปให้ทุกท่านแล้วครับ)

​

 

....วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ทางคณะจัดสร้างได้นำชนวนมวลสารหล่อ "เหรียญรัตนมงคลโลกนาถ" โดยชนวนมวลสารเนื้อพิเศษนี้ได้ใช้เนื้อโลหะที่เป็นสำริดโบราณล้วนๆ(ไม่ใส่สำริดใหม่เพิ่ม) โดยมีชนวนดังนี้ครับ

1.แผ่นจารรัตนมาลาทั้ 2 สูตร(ผ่านพิธีรัตนมาลามาแล้ว) 22 แผ่น
2.สำริดเงินโบราณ(เงินฮ้อยเงินฮาง) 1 แท่ง(หนัก3บาทกว่า)
3.สำริดขวานฟ้าหลวงปู่ท่อนเมตตามอบให้ตั้งแตปี 2548
4.ตะปูสังฆวานรสำริด 100 ปี วัดดอนเต้าสุชาดาราม
...........และแผ่นจารยังอุองค์ธรรมตามสูตรทุกประการ..................

....โดยชนวนทั้งหมดผสม 100% ไม่ผสมโลหะอื่นๆเลยนะครับ สีออกสำริดเข้มขลังมากครับ โดยการหล่อครั้งนี้ใช้เครื่องสูบแบบสุญญากาศพระจึงสามารถหล่อออกมาได้สวยและคงรูปครับ(เนื่องจากเป็นโลหะเก่ากว่า100ปีถ้าหล่อปกติจะหล่อไม่ติดครับ เลยต้องใช้เครื่องสูบสุญญากาศหล่อ)
ท่านสมาชิกสามารถรับชมภาพหล่อชนวนมวลสารภาพ VDO ได้ที่
FB : วัตถุมงคลพลังจิตได้เลยครับ

​

 

....วันนี้ 7 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 15.30 น. หลังไปรับ "เหรียญรัตนมงคลโลกนาถ" ที่โรงหล่อจังหวัดขอนแก่น เพื่อนำไปเข้าพิธีและลงยันต์ประทับหลังต่อไปครับ

​

...พอดีมีเวลาเหลือหลังจากกลับจากโรงหล่อ คุณวิเวียน(สมาชิกชมรมอีกท่านหนึ่ง) ชวนแวะเข้า กราบหลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ เพราะเป็นเวลาที่ท่านจะออกมารับแขกญาตโยมพอดี พอไปถึงท่านก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้ประจำของท่านพระอุปัฏฐากก็นำน้ำร้อนน้ำชามาถวายท่านตามข้อวัตรปกติ ทางคณะและผู้เขียนก็ได้เข้าไปกราบพร้อมถวายปัจจัยและไทยธรรมต่างๆที่ซื้อติดเข้ามาด้วย

...พอสนทนากับท่านสักพักก็จะขอกราบลา แต่ด้วยคุณวิเวียนเธอเป็นคนปากไวครับ ก่อนกราบลากลับดันกราบขอเมตตาท่านว่า "หลวงพ่อเจ้าขา ทางชมรมเราสร้างเหรียญเพื่อหาปัจจัยถวายวัดต่างๆ ยังงัยกราบขอเมตตาหลวงพ่ออธิษฐานให้ได้ไหมเจ้าคะ"

​

....หลวงพ่อท่านก็ถามว่า "พระหยัง(พระอะไร)" คุณวิเวียนจึงให้น้องที่ขับรถวิ่งไปเอาพระที่อยู่ในรถมาให้หลวงพ่อท่านดู พอพระมาถึงหลวงพ่อท่านก็จับดูแล้วบอกว่า "ดีพอแฮงแล้ว(ดีขนาดแล้ว)" แต่ท่านก็เมตตาให้นำพระทั้งหมด "มาวางไว้ตรงที่โต๊ะวางน้ำชาท่านแล้วท่านก็เริ่มกำหนดจิตภาวนาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง" แล้วก็บอกย้ำอีกครั้งว่า "อ่าวดีแล้ว" ก่อนส่งกลับคืนให้​

....ทีแรกผู้เขียนก็ไม่คิดว่าจะขอเมตตาท่านหรอกครับ เพราะเห็นว่าท่านอาพาธอยู่และทางวัดก็ไม่อนุญาตให้นำวัตถุมงคล(ที่ท่านไม่ได้อนุญาต) ขอให้ท่านอธิษฐานจิตเหมือนแต่ก่อนเพราะกลัวไปรบกวนท่าน แต่ด้วยคุณวิเวียนเธอเป็นคนปากไว และด้วยความเมตตาจากองค์หลวงพ่อท่านด้วย ท่านจึงเมตตาให้ในวาระเบิกฤกษ์นี้ครับ(พระเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆเลยก็ว่าได้ครับเพราะเพิ่งออกมาจากโรงหล่อ)

​

ดังนั้นวาระแรกนี้ถือว่าโชคดีมากๆครับ "ลูกศิษย์ในองค์หลวงปู่ชอบ หลวงพ่อสมศรี เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นกรณีพิเศษครับ"

ปล.ปกติถ้าไม่ขออนุญาตอย่างเป็นทางการทางวัดจะไม่อนุญาตให้นำเข้าหาท่านอธิษฐานจิตเหมือนแต่ก่อนนะครับ เพื่อมิให้รบกวนธาตุขันธ์ท่านครับ(เพราะอธิษฐานจิตแต่ละครั้งท่านจะใช้พลังจิตประสิทธิ์ครับ)

 

ยันต์นี้จะใช้ลงด้านหลังเหรียญ
"รัตนมงลคลโลกนาถ"
​

.....อุองค์ธรรม จะเป็นยันต์คล้ายๆอุโองการ แต่ต่างกันที่ยอดของยันต์สุริยันต์และจันทรา โดยยันต์อุโองการจะเป็นอุณาโลม แต่อุองค์ธรรมยอดยันต์จะลงยันต์เฑาะว์(ลงตำราสมเด็จ) อุองค์ธรรมนี้ท่านอาจารย์บุญเลิศบอกครับว่า "ถือว่าเป็นยันต์หนึ่งที่สุดยอดของยันต์ทั้งหลาย" ซึ่งถือเป็นยันต์แก้วองค์ธรรม เหตุที่เรียกว่าองค์ธรรมเพราะ "ลงและเสกด้วยรัตนะมาลาบทยันต์ อุ เป็นพื้นฐาน" ซึ่ง"อุ"คำนี้มาจาก "อุตตรธรรม" แปลว่า "ธรรมะอันเลิศ" นัยยะคือ พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 จึงถือว่าท่านเป็นองค์ความรู้แห่งธรรมทั้งหลาย ที่นำพาสัตว์โลกล่วงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้จึง "ถือเอาเคล็ดนี้เป็นการเบิก หรือเปิดทางที่เป็นอุปสรรคทั้งหลายให้กระทำการสิ่งใดๆจะไม่มีอุปสรรคมาขัดขวาง ทำการอะไรก็จะสะดวกโยธิน ดุลดังธรรมมะที่ปัดเป่ากิเลสความเศร้าหมองให้พ้นไปฉันใด ยันต์นี้ก็ปัดเป่าอุปสรรคไปได้ฉันนั้น"

...และยันต์นี้ยังมียันต์เฑาะว์ด้านบนกำกับ "ยันต์เฑาะนี้ถูกรจนามาจาก อักษรปัลลวะ ซึ่งเป็นอักษรโบราณในอดีตก่อนจะมีเป็นอักษรขอม และอักษรไทยซึ่งเรียกว่าตัว "ธะ" โดยครูบาอาจารย์ในอดีตท่านได้ผูกยันต์นี้ขึ้นมาเพื่อน้อมพลังงานมาสถิตที่ยันต์นี้และใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน และยังใช้เป็นสัญลักษณ์ของกรมการศาสนาในปัจจุบันนี้อีกด้วย ยันต์เฑาะนี้จึงถือว่ามีคุณวิเศษน้อมไปถึงธรรมะคุณทุกด้าน โดยเฉพาะป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลาย..."

...ว่ากันว่า "สมเด็จโต พรหมรังสี ท่านมักลงยันต์เฑาะนี้ไว้สายรัดประคดของท่านเวลาท่านไปในสถานที่อาถรรพ์ต่างๆอีกด้วย (บ้างก็ว่าท่านใช้ยันต์นี้เพื่อบังตาจากอันตรายทั้งหลายยามคับขัน)" นั้นแสดงว่ายันต์เฑาะนี้ถือว่ามีคุณวิเศษนานัปการ แม้กระทั่งโบราณจารย์ทั้งหลายในอดีตใช้ลงประจำตัวกันเป็นประจำเลยทีเดียว(ว่ากันว่ากันฟ้าผ่าได้ด้วยครับ) ...

คำพรรณนาอุองค์ธรรม(อุ รัตนมาลา)
ที่ถูกแต่งไว้โดยโบราณาจารย์ในอดีตครับ

​

 

​

....ตอนนี้เหรียญ "มงคลรัตนมาลาโลกนาถ" ได้นำส่งไปยิงเลเซอร์แบบร่องลึกประทับยันต์อุองค์ธรรมด้านหลังเหรียญอยู่นะครับ หลังจากหลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ เมตตาอธิษฐานจิตในวาระแรก ซึ่งต่อไปก็จะนำเข้าพิธีบวงสรวงไหว้ครูบูชาพระโดยท่านอาจารย์บุญเลิศ(เจ้าพิธี) และกราบขอเมตตาพระอาจารย์พล และ หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ เมตตาอธิษฐานจิตในวาระต่อไปครับ

....เมื่อวาน 9/6/2568 ผู้เขียนได้มีโอกาส สนทนาพูดคุยกับท่านอาจารย์บุญเลิศเรื่อง "อุ" ต่างๆในตำรา เพราะผู้เขียนเห็นในตำราที่ท่านอาจารย์บุญเลิศท่านบันทึกไว้มีตัวอุ เป็นองค์ประกอบอยู่เกือบทุกยันต์และเกือบทุกสำนัก

....ท่านอาจารย์บุญเลิศ กรุณาอธิบายว่า "จริงๆแล้ว อุ ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่ง เป็นพื้นฐานของอักขระที่มีเกือบทุกยันต์ ด้วยโบราณจารย์ท่านถือว่าตัว"อุ" เป็นตัวพื้นฐานที่รองรับของพลังงานได้ดี เพราะเป็นตัวแทนของ "พระธรรมะ" แต่บทเสกและบทลงอาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่สำนักที่สอนกันมา แต่ว่าใช้ตัว อุ เป็นพื้นฐานเหมือนกัน ถ้าอุปมาก็เหมือนกับเวลาเราสร้างบ้าน ก็ต้องมีลงเสาร์เข็มเสาร์เอกปูพื้นวางโครงสร้างให้แข็งแรง ก่อนจะสร้างสิ่งอื่นๆตามมา ทั้งนี้ก็เพื่อความมั่นคงของบ้าน ตัวอุก็เช่นเดียวกันเปรียบเหมือนพื้นฐานที่จะรองรับพลังงานต่างๆที่จะวางลงมาเพื่อไม่ให้พลังงานเสื่อม ไม่ให้พลังงานหาย "เพราะพระธรรมมีแต่ทำให้ผู้ปฏิบัติตามเจริญขึ้นแต่ฝ่ายเดียวไม่มีความเสื่อม" ตัวอุนี้จึงแทน
อุตตะมะธัมมะมัชฌะคา แปลว่า ธรรมะสายกลางที่ประเสริฐที่สุด....."

....ท่านอาจารย์บุญเลิศ ท่านเล่าเสริมเคล็ดตรงนี้นิดหน่อยครับว่า "ท่านยกตัวอย่างคำพูดของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร หลวงพ่อกวยท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหามาก ทั้งที่เป็นตำรวจและเป็นโจน มีครั้งหนึ่งลูกศิษย์ของท่านที่เป็นนายตำรวจไปกราบขอร้องท่านว่าอย่าสร้างเสกวัตถุมงคลให้โจนเลย มันทำให้ตำรวจทำงานยากเพราะวัตถุมงคลของหลวงพ่อที่ให้พวกโจน ไปป้องกันคุ้มครองตัวพวกมัน"

....ด้วยความที่ท่านเป็นครูบาอาจารย์ย้อมไม่ขายลูกศิษย์อยู่แล้วท่านจึงออกตัวไปว่า "กูจะไปรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นโจน ใครมาขอความช่วยเหลือกูช่วยได้กูก็ช่วยทั้งนั้น นายตำรวจลูกศิษย์จึงพูดกับหลวงพ่อในเชิงตัดพ้อว่า "ไหนว่าพระจะไม่คุ้มครองคนทำความชั่วละครับ" หลวงพ่อท่านจึงสวนกลับไปว่า "ใครบอกมึง" พระที่ดีย้อมไม่เลือกข้างใครลำบากมาพระก็ช่วยทั้งนั้น ส่วนเรื่องที่ใครจะไปบังเบียดใคร "อันนั้นเป็นกรรมของใครของมัน ทำกรรมดีก็ได้รับผลดี ถ้าทำกรรมชั่วย้อมได้รับผลกรรมชั่วอยู่แล้ว พระที่ไหนก็คุ้มครองไม่ได้หรอก"...... "

...ซึ่งก็ตรงกับที่ว่า "ธัมมะมัชฌะคา" ธัมมะ(หลักธรรม)+มัชฌะคา(สายกลาง) ผู้ที่จะบรรลุธรรมต้องน้อมนำหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่า "มัชฌิมาปฏิปทา" ซึ่งหมายถึง "ทางสายกลาง" นิพพานความดีก็ไม่เอา ความชั่วก็ไม่เอา อยู่เหนือการปรุงแต่งทุกประการ(สถานะความเป็นกลางไม่เกิดไม่ดับ) ดังนั้นตัว อุ ที่แทน อุตตะมะธัมมะมัชฌะคา แปลว่า ธรรมะสายกลางที่ประเสริฐที่สุดนี้ จึงถือเป็นหลักธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งของภูมิปัญญาครูบาอาจารย์ในอดีตที่ท่านรจนาผ่านหลักธรรม จนนำไปสู่การน้อมนำพลังงานเพื่อไว้รองรับพลังงานต่างๆที่จะมาประสิทธิลงวัตถุมงคลหรือยันต์นั้นๆที่มีตัว อุ อยู่เป็นพื้นฐานนั้นเอง.....

 

​

....องค์องค์ธรรม จะเป็นยันต์คล้ายๆอุโองการ แต่ต่างกันที่ยอดของยันต์สุริยันต์และจันทรา โดยยันต์อุโองการจะเป็นอุณาโลมแต่อุองค์ธรรมยอดยันต์จะลงยันต์เฑาะว์ ซึ่งถือเป็นยันต์แก้วองค์ธรรม เหตุที่เรียกว่าองค์ธรรมเพราะ "ลงและเสกด้วยรัตนะมาลาบทยันต์ อุ เป็นพื้นฐาน" ซึ่ง"อุ"คำนี้มาจาก "อุตตรธรรม" แปลว่า "ธรรมะอันเลิศ" นัยยะคือ พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 จึงถือว่าท่านเป็นองค์ความรู้แห่งธรรมทั้งหลาย ที่นำพาสัตว์โลกล่วงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้จึง "ถือเอาเคล็ดนี้เป็นการเบิก หรือเปิดทางที่เป็นอุปสรรคทั้งหลายให้กระทำการสิ่งใดๆจะไม่มีอุปสรรคมาขัดขวาง ทำการอะไรก็จะสะดวกโยธิน ดุลดังธรรมมะที่ปัดเป่ากิเลสความเศร้าหมองให้พ้นไปฉันใด ยันต์นี้ก็ปัดเป่าอุปสรรคไปได้ฉันนั้น"

​

....ยันต์เฑาะว์ตัวนี้ พัฒนามาจากตัว ธ. ในอักษรปัลลวะซึ่งเป็นอักษรโบราณก่อนจะมาเป็นอักษรไทยในปัจจุบัน ครูบาอาจารย์ท่านจึงนำมารจนาเป็นยันต์แทน "พระธรรม" และคล้ายๆกับท่านั่งสมาธิ ท่านจึงใช้เป็นยันต์แทนองค์พระธรรมทั้งหลาย

....ส่วนยันต์สุริยันต์และจันทรา ที่เป็นองค์ประกอบของยันต์ อุ ที่อยู่ด้านบนตัว อุ เป็นสัญญลักษณ์แบบอุปมา(metaphor) แทนเรื่องของกาลเวลา คือ ตอนเช้าแทนด้วยพระอาทิย์ ตอนค่ำแทนพระจันทร์ เคล็ดของยันต์นี้คือ "ไม่ว่าเวลาใดไม่ว่าเช้าหรือค่ำ ท่านที่มียันต์นี้จะได้รับการอารักขาคุ้มครอง ป้องกัน ดูแลจากพระพุทธานุภาพนี้มิได้ขาดเลย(สุริยันจันทรานี้มีสูตรลงนะครับ) หรืออีกนัยยะหนึ่งทางธรรมคือ "สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม...อกาลิโก หมายความว่าพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติโดยไม่จำกัดกาลเวลา" พระจันทร์และพระอาทิตย์ที่อยู่ภายใต้พระธรรม(ตัวเฑาะว์) เป็นการแทนว่าผู้ใดมียันต์เฑาะว์นี้คุณแห่งพระธรรมมานุภาพ ย้อมให้ผลไม่จำกัดกาลเวลานั้นเอง"

....ฉะนั้นยันต์อุองค์ธรรมนี้นอกจากจะลงตัว อุ ตามสูตรรัตนมาลาแล้ว ยังลง สุริยันต์จันทรา และ ลงยัต์เฑาะว์แทนพระธรรมสูงสุด "โบราณจารย์ท่านจึงว่ายันต์นี้เป็นมหาปัดตลอด ปัดอุปสรรคต่างๆ ดุลดังธรรมมะที่ปัดเป่ากิเลสความเศร้าหมองให้พ้นไปฉันใด ยันต์นี้ก็ปัดเป่าอุปสรรคไปได้ฉันนั้น"

****************


​

....ส่วนยันต์ อุ องค์พระตัว มะ ตัว อะ ตัว อุ ที่ลงมีเคล็ดทุกตัวครับโดยถอดจากมนต์พระปริตรต่างๆ(ตรงนี้ไม่ขอลงรายละเอียดครับ เพราะทราบว่ามีหลายสำนักcopy จากบอร์ดนี้เอาไปใช้เป็นอุปเท่ห์ทำยันต์กันเอง หลายสำนักแบบไม่รู้จริง) ซึ่งตามตำราที่อาจารย์บุญเลิศท่านบันทึกไว้(ตามในภาพด้านล้างนี้ผู้เขียนได้ขออนุญาตท่านสแกนมาให้ชมกันครับ) โดยท่านมีเคล็ดการลงแบบมหาระงับ ประมาณว่า

....
เยธัมมา. คาถาระงับพิพาท
เย ธมฺมา เหตุ ปัพฺพวา
เตสํ เหตุงฺ ตถาคโต
เตสญฺจะ โย นิโรโธ จะ
เอวํ วาที มหาสมฺโณ"
"ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติ ทรงสั่งสอนอย่างนี้"

ในสมัยพุทธกาล. เช้าวันหนึ่ง สารีบุตรปาริพาชกหรือพรัสารีบุตรอัครสาวกเมื่อยังไม่ได้บวช เห็นท่านพระอัสสชิกำลังบิณฑบาตในพระนครราชคฤห์ มีมรรยาทน่าเลื่อมใส นัยน์ตาทอดลง ถึงพร้อมด้วยอิริยาบถ คิดในใจว่าภิกษุรูปนี้คงเป็นพระอรหันต์ หรือเป็นผู้ได้บรรลุพระอรหัตมรรคเป็นแน่ จึงเดินตามไปเรื่อย ๆ เพื่อรอให้ท่านบิณฑบาตเสร็จ แล้วเข้าไปหาพระอัสสชิ ถามท่านว่าท่านบวชเฉพาะใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่านชอบใจธรรมของใคร
พระอัสสชิตอบว่า ท่านบวชเฉพาะพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเป็นศาสดาของท่าน และท่านชอบใจธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น

พระอัสสชิได้แสดงธรรมของพระผู้มีพระภาคตามที่สารีบุตรปาริพาชกขอ ว่า "เย ธมฺมา เหตุ ปัพฺพวา เตสํ เหตุงฺ ตถาคโต เตสญฺจะ โย นิโรโธ จะ เอวํ วาที มหาสมฺโณ" "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติ ทรงสั่งสอนอย่างนี้" ดวงตาเห็นธรรม ได้เกิดแก่สารีบุตรปาริพาชกว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา บรรลุพระโสดาบัน
เมื่อสารีบุตรปริพาชกพบโมคคัลลานปริพาชก ก็เล่าเรื่องที่ได้พบพระอัสสชิ รวมถึงกล่าวธรรมที่พระอัสสชิทรงแสดงแก่ตน โมคคัลลานปริพาชกมีดวงตาเห็นธรรม บรรลุพระโสดาบัน

จากนั้นโมคคัลลานปริพาชกได้ชักชวนสารีบุตรปริพาชก และปริพาชกทั้ง ๒๕๐ คน ไปยังสำนักพระผู้มีพระภาค ณ พระวิหารเวฬุวัน แม้สญชัยปริพาชกจะต้านทานถึงสามครั้งก็ไม่เป็นผล โลหิตร้อนได้พุ่งออกจากปากสญชัยปริพาชกในที่นั้นเอง

*****ฉะนั้นสูตรนี้มักนิยมใช้คาถานี้ลงในแผ่นเงินหรือวัตถุมงคล. เพื่อล้อมพระธาตุ. มีเคล็ดว่าคนในบ้านนั้นจะไม่ทะเลาะกัน. เกิดความสงบร่มเย็น เกิดความอุดมสมบูรณ์ ป้องกันคุณไสย คุณของไม่ดีต่างๆ ป้องกันอาถรรพ์และภัยอันตรายเกิดแต่มนุษย์ก็ดี เกิดแต่อมุนษย์ก็ดี ดังอุปเท่ห์ดังในเอกสารตำราครูบาอาจารย์ที่แนบมาให้ชมกันนี้ครับ

​