บันทึกการเดินทาง "อดีตเชื่อมปัจจุบัน"

วันศุกร์ที่ ๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘


อากาศตอน ๐๕.๓๕ (อินเดีย) อยู่ที่ ๑๕ องศาเซลเซียส


"เสบียงบุญ" วันนี้






รูปเข้าเฝ้าองค์ดาไลลามะเมื่อวาน ตามมารูปได้มาเมื่อคืนนี้


พระพุทธรูปตรงประตูทางเข้าโรงแรม เขาน่าจะตั้งไว้เป็นเครื่องประดับ..


๖ โมง (อินเดีย) แล้วครัวยังว่างเปล่า เพราะวันนี้นัดไว้ ๗ โมงเช้า


ถ้าไม่เห็นว่ายังลูกเท่าหัวแม่มือ ก็จะเก็บแอปเปิ้ลกินเองแล้ว..!




อาหารเช้า


แมลงภู่กำลังกินอาหารเช้า


เวลา ๐๘.๐๐ น. (อินเดีย) เดินทางไปพิพิธภัณฑ์


เชื่อเถอะ..เขาไปจนได้..!​

 

วันศุกร์ที่ ๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘


อากาศตอน ๐๕.๓๕ (อินเดีย) อยู่ที่ ๑๕ องศาเซลเซียส


"เสบียงบุญ" วันนี้






รูปเข้าเฝ้าองค์ดาไลลามะเมื่อวาน ตามมารูปได้มาเมื่อคืนนี้


พระพุทธรูปตรงประตูทางเข้าโรงแรม เขาน่าจะตั้งไว้เป็นเครื่องประดับ..


๖ โมง (อินเดีย) แล้วครัวยังว่างเปล่า เพราะวันนี้นัดไว้ ๗ โมงเช้า


ถ้าไม่เห็นว่ายังลูกเท่าหัวแม่มือ ก็จะเก็บแอปเปิ้ลกินเองแล้ว..!




อาหารเช้า


แมลงภู่กำลังกินอาหารเช้า


เวลา ๐๘.๐๐ น. (อินเดีย) เดินทางไปพิพิธภัณฑ์


เชื่อเถอะ..เขาไปจนได้..!​

 

ประมาณ ๔๐ นาทีมาถึงวัด Gyuto Tantric Monastery


ให้นายวิกรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่นถ่ายรูปทีไรจะได้แต่แนวตั้งแบบนี้




























กราบพระ ทำบุญ ถ่ายรูปจนเสร็จแล้ว พระท่านชี้ให้ดูป้าย..!


ป้ายบอกว่าวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้สอนวิชาลับเฉพาะของนิกายตันตระ


เวลา ๐๙.๓๐ น. (อินเดีย) ออกเดินทางต่อไป สถาบันนอร์บูลิงกา ประมาณศูนย์ศิลปาชีพของบ้านเรา​

 

ประมาณ ๔๐ นาทีมาถึงวัด Gyuto Tantric Monastery


ให้นายวิกรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่นถ่ายรูปทีไรจะได้แต่แนวตั้งแบบนี้




























กราบพระ ทำบุญ ถ่ายรูปจนเสร็จแล้ว พระท่านชี้ให้ดูป้าย..!


ป้ายบอกว่าวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้สอนวิชาลับเฉพาะของนิกายตันตระ


เวลา ๐๙.๓๐ น. (อินเดีย) ออกเดินทางต่อไป สถาบันนอร์บูลิงกา ประมาณศูนย์ศิลปาชีพของบ้านเรา​

 

ไปถึงจัดการถ่ายรูปหมู่แล้วตรงไปยังวิหารหลัก








สี่ท้าวมหาราชเฝ้าประตูวิหาร


















กราบพระประธาน ร่วมทำบุญ ชมภายในวิหารหลัก​

 

พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา แสดงวิถีชีวิตทั้งชาวทิเบตและภาพทังกา












ด้านบนของพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาเป็นที่ผลิตงานศิลปาชีพ




















ทางออกเป็นร้านจำหน่ายสินค้า ภาพสุดท้ายราคา ๖๔,๗๒๐ รูปี มีผู้รูดบัตรจ่ายไปเรียบร้อยแล้ว..!​

 

จ่ายกันจนกระเป๋าเบาดีแล้วก็มากินบุฟเฟ่ต์ตรงซ้ายมือประตูเข้าสถาบัน


อิ่มแล้วเข้าห้องน้ำ ก่อนเดินทางต่อไป


รถติดกว่ากรุงเทพฯ อีก..!


รถติดจนไม่รู้จะทำอะไร ดูห้องส้วมข้างถนนไปก่อนก็แล้วกัน..!


ต่อไปคือวัวเคี้ยวเอื้อง เจ้าตัวนี้เกือบได้ลักษณะ "ปัดตลอด"


สรุปว่าที่รถติดสาหัสเพราะมีรถบรรทุกตายกลางถนน..!​

 

เวลา ๑๒.๒๐ น. (อินเดีย) เข้าชมพิพิธภัณฑ์สงครามอินเดีย - จีน รูปสุดท้ายคืออนุสาวรีย์ท่านนายพลโสรวาร สิงห์










ตะกายฟ้าไปตามถนนแคบ ๆ ขึ้นเขา เพื่อชมพิพิธภัณฑ์ชาวทิเบต
แต่..เป็นเวลาที่เขาพักเที่ยงพอดี






ถ่ายรูปหมู่ เดินดูหมา รอเวลาพิพิธภัณฑ์เปิด​

 

กดดันจน ๑๓.๓๐ น. (อินเดีย) เจ้าหน้าที่ต้องมาเปิดให้เข้าชม เริ่มจากความเป็นมาและศาสนานิกายต่าง ๆ ของธิเบต






















ถึงเราจะเป็นประเทศเล็ก ล้าหลัง แต่เราก็ต้องต่อสู้ เพื่อป้องกันศาสนา ประเทศชาติ และวัฒนธรรมของเรา














ผู้หญิงทิเบต ตั้งแต่พระมารดาองค์ดาไลลามะ ไปถึงผู้มีบทบาทต่อสู้กับกองทัพคอมมิวนิสต์จีน จนมาถึงผู้ประสบความสำเร็จในสาขาต่าง ๆ ยุคปัจจุบัน








ฝ่ารถติดในเมือง ขึ้นเขากลับที่พัก


ความลับของการเดินทางด้วยผ้าชุดเดียว..!


เสกวัตถุมงคลเป็นกรณีพิเศษ


ใกล้ค่ำฟ้าเปิด ภาพชัดเจนดี​

 

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘

​

 

วันเสาร์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘


อากาศตอน ๐๓.๑๕ (อินเดีย) อยู่ที่ ๑๔ องศาเซลเซียส


"เสบียงบุญ" วันนี้


ฟันแตกสะเคราะห์ให้ทุกคนแล้ว..!


น้องการ์ตูนคนขยัน กำลังเร่งผลิตผลไม้สำหรับอาหารเช้า


ป้ายชื่อโรงแรม น่าจะโดนถอดไปหลายตัว..!


รถตู้มารอตั้งแต่ตีห้าครึ่ง (อินเดีย)






อาหารเช้าพร้อม


ฉันยังไม่ทันจะเสร็จ รถตู้ก็มาจอดกดดัน..!


๔ แถว ๑๒ ที่นั่ง


นอนมา ๓ คืนจนเบื่อแล้ว ขอย้ายโรงแรมหน่อย..!


หลวงพ่อแจกทิปคนละ ๕๐๐ รูปีให้ทุกคน ทางโรงแรมเลยขอถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก


เวลา ๐๗.๐๐ น. (อินเดีย) ออกเดินทาง อีก ๘ ชั่วโมงจะถึงจุดหมายของวันนี้​

 

ไม่ใช่ยากันยุง นี่คือสเปรย์ปรับอากาศแบบอินเดีย..!




๒๕ นาที มาเปลี่ยนขึ้นรถบัสที่เดิม


เวลา ๐๗.๔๕ น.(อินเดีย) หลังจากขนกระเป๋าขึ้นครบ ก็ออกเดินทาง






ขึ้นเขาลงห้วยท่ามกลางฝนพรำ ก็หวาดเสียวกันหน่อยครับ..!


แวะซื้อน้ำดื่มเพิ่มเติมเผื่อเอาไว้ก่อน


สิ่งที่ได้มามากกว่าน้ำดื่ม..!








ทิวทัศน์รายทาง


มีอุโมงค์ที่ขุดกันเองด้วย จะถล่มเมื่อไรก็ไม่รู้ ?!


อุโมงค์นี้รัฐบาลขุด..!


มีด่านเก็บค่าผ่านทางที่ยังไม่เปิดทำการ


เวลา ๐๙.๔๐ น. (อินเดีย) เข้าห้องน้ำในสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งมีอยู่ห้องเดียว


รถจอดข้างต้นหญ้าชนิดนี้


ทำเวลาดีมาก สิบกว่านาทีก็เดินทางต่อ


พี่จอดแบบนี้แล้วผมจะไปทางไหนวะ ?


พี่เหลือทางให้ผมแค่นี้ ?!








วิ่งเรื่อยไปอย่าได้ท้อ จุดหมายรออยู่ข้างหน้า


เวลา ๑๑.๒๐ น. (อินเดีย) มาถึงเมืองหะมิระปุระ จะหยุดกินมื้อกลางวันกันที่นี่


๔ ชั่วโมงผ่านไป วิ่งมาได้ ๘๐ กิโลเมตร เหลืออีกแค่ ๑๔๐ กิโลเมตรเท่านั้น..!


จอดรถปุ๊บคันหลังบีบแตรไล่ปั๊บ..!










เดินชมเมืองให้หิวก่อน..!​

 

ผ่านทางลับของห้างสรรพสินค้า ตะกายขึ้นไปชั้น ๓ ภัตตาคารมหาเทพ คณะของเราเหมาทั้งร้าน..!






อาหารจากเมืองไทยและข้าวกล่องของโรงแรม Asia Spa Resort ตามมาหลอกหลอน..!


















ครึ่งชั่วโมงผ่านไปอาหารจานแรกก็มาถึง แต่..พวกเราอิ่มไปแล้ว..!
จึงชิมอย่างละคำ แล้วยกให้โต๊ะอื่นไปดำเนินการต่อ..!​

 

๑ ชั่วโมง ๒๐ นาทีผ่านไป ขี้เกียจนั่งอุดอู้อยู่ในร้าน จึงออกมาเดินดูบ้านดูเมืองของเขา






รอจนมากันครบแล้วก็เดินไปรอขึ้นรถบัสที่ป้ายรถเมล์




เวลา ๑๓.๑๕ น. (อินเดีย) ออกเดินทาง ผ่านอนุสาวรีย์อะรูมิไร้ ?


เวลา ๑๔.๐๕ น. (อินเดีย) พลขับขอเวลากินข้าวกลางวัน เพราะว่าช่วงเพลมัวแต่เฝ้ารถอยู่..!


๒๔ นาทีผ่านไป อิ่มแล้วมีแรง ขับรถต่อได้


ถนนลาดยางใหม่เยี่ยม เห็นแล้วโตะจายโหมะเลย..!


ศิมลาอีก ๑๑๒ กิโลเมตรเท่านั้น..!


หลังคาบ้านมุงด้วยหินกาบ


ตำรวจจราจรเมืองกุมารวิน


ไปทางขวาคือเส้นทางกลับไปเมืองจันทิครห์


อีก ๙๕ กิโลเมตรก็ถึงที่หมายแล้ว


โรงเรียนเลิกเรียนแล้ว


เขาไปไหนก็ไม่รู้ ? ตรงกันข้ามกับเส้นทางของเรา​

 

เวลา ๑๖.๓๕ น. (อินเดีย) จอดพักเข้าห้องน้ำ


ร้านนี้มีเทพหนุมานด้วย


เวลา ๑๖.๕๕ น. (อินเดีย) ออกเดินทางต่อ เหลืออีก ๕๓ กิโลเมตรจะถึงจุดหมายปลายทาง


มีพี่ใหญ่ใจดีหลายคันนำหน้า คืนนี้จะถึงเที่ยงคืนไหมนี่ ?!


เอิ่มม..พี่จะลงหรือให้ผมขึ้นก่อน ?


เจ้าข้าเอ๊ยยย..บนเขาก็รถติด..!


แซงได้แล้ว..เย้..!


แดด..รอน..รอน เมื่อทินกรจะลาลับโลกไป..ไกล..!




ชมวิวไปก่อน อีก ๓๙ กิโลเมตรก็ถึงแล้ว..!​

 

ขายพรมกันข้างถนนแบบนี้เลย..!


จะเข้าตัวเมืองแล้ว ต้องเปิดม่านทุกคน..!








ตัวเมืองตั้งยาวไปตามไหล่เขา เจอขบวนแห่พระศิวะเข้าพอดี


พอเข้าเมืองก็รถติดสาหัส..!​

 

รถทั้งประเทศมารวมอยู่บนนี้เลยมั้ง ?




ค่ำแล้ว..ตะวันลับทิวไม้ไป..!






จอดรอรถเล็กมารับขึ้นไปโรงแรมบนยอดเขา


ติดต่อขอรับห้องพัก


รูปสักการะพระกฤษณะที่แสนงดงาม












มีพระพุทธรูปในห้องพักด้วย


อากาศตอนนี้อยู่ที่ ๑๕ องศาเซลเซียส​

 

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘

​

 

วันอาทิตย์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘


อากาศตอน ๐๓.๐๕ (อินเดีย) อยู่ที่ ๑๒ องศาเซลเซียส


"เสบียงบุญ" วันนี้




ทิวทัศน์นอกหน้าต่างตอนตีสามเศษ




เทียบกับตอนทุ่มครึ่งที่มาถึง


"พี่ใหญ่" กลัวจะไม่ปลอดภัย มากดตะขอล็อกให้ตอนไหนก็ไม่รู้ ?


แถมยังมานั่งอยู่บนเตียงที่ไม่ได้ใช้งาน มีใครมองเห็นบ้างเอ่ย ?












มองจากห้องพักตอน ๐๕.๓๕ น. (อินเดีย)






มองกลางวันเห็นชัดเจนแล้วว่า องค์พระกฤษณะแกะจากหินขาวอลาบาสเตอร์ (หินอ่อนยุโรป)


วันอาทิตย์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ วันพระอมฤตโชค








มุมจากห้องอาหาร












มุมจากลานหน้าโรงแรม


ใครมาไวก็ได้รูปไป ๕๕๕




ระหว่างรอห้องอาหารเปิด




ไม่เปิดก็ช่าง..อะไรกินได้จ้วงไว้ก่อน..!


ใช้รถตู้นั่งเที่ยวในเมืองเพื่อหนีรถติด


ขนาดรถตู้เริ่มออกก็เริ่มติด


สรุปว่ามีรถตำกันข้างหน้า..!​

 

จอดแล้วจร ยัดกันเข้าไปในลิฟท์ ขึ้นไป ๒ ช่วง


ออกจากลิฟท์มาก็เจอของกินรออยู่เลย..!















ซอยร้อยล้าน เดินจนขาลาก เก้าโมงกว่าแล้วยังไม่เปิดสักร้าน..!




ลูกพี่บวชเป็นพระแล้วผมยังเป็นหมาอยู่เลย..เซ็งอ่ะ..!




รูปหมู่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองศิมลา ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นร้านกาแฟ..!
​