เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ปิดปากน้ำรุ่น 4 ครับ คุณอา

 

พระของขวัญปากน้ำรุ่น4 ผมมอบให้สมาชิกทำบุญบูชาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 20 กว่าองค์ เรียกว่าแทบหมดกรุ แต่ยังมีเก็บไว้บ้างไม่หมดเสียทีเดียว เหมือนพระของขวัญรุ่น 6 เนื้อฟักทองยอดนิยมที่แจกไปคราวได้ยอดไลค์ "ล้านแล้วจ้า" เกินกว่า 20 องค์ แต่ละองค์วันนี้เดินซื้อมีราคาตั้งแต่ 600-1,000 กว่าบาท แล้วแต่จะสวยมากสวยน้อยหรือเจอบล็อคใบหน้าพิมพ์นิยมที่นักเล่นตั้งขึ้นมาเพื่อทำราคา

พระปากน้ำทุกองค์ไม่ว่าจะรุ่นไหนที่นำลงบูชา ล้วนนำมาจากวัดทั้งสิ้น ไม่เคยไปซื้อต่อใครมา ทำบุญวัดได้บุญตรง ได้พระแท้ จะมีราคาวันนี้ วันหน้าเมื่อเวลาผ่านไป ก็แล้วแต่ประสบการณ์ที่บังเกิดและความต้องการของตลาด

ปากน้ำรุ่น 4 ปี 2514 เป็นพระที่น่าบูชามาก อายุสร้างเกินครึ่งร้อยปี เนื้อหาก็ยอดเยี่ยมรวมรุ่น1-3 ไว้เต็มคาราเบล การปลุกเสกทั้งอัดวิชาธรรมกาย และมีพิธีพุทธาภิเษกทั่วไปโดยยอดคณาจารย์ที่นับถือหลวงพ่อสดอีกต่างหาก ครบเครื่องเรื่องต้มยำที่สุด...!

ประสบการณ์รุ่นนี้ก็เพียบพร้อมทุกรูปแบบ เรื่องอุบัติเหตุแล้วรอดเป็นว่าเล่นเจอกันชาชิน แต่ประเภท "ฟ้าผ่าลงตัว" แล้วรอดโดยมีพระปากน้ำรุ่น 4 แขวนอยู่องค์เดียวนี่สิ ต้องเอาหลักฐานไปให้ไอ้เดรัจฉาน มารศาสนาที่อาศัยเกาะศาสนาพุทธหากินในชื่อ "คนเต้าธรรม" มันดู!!!

ไอ้อาจมหรืออาชามตัวนี้จะได้รู้ว่า อย่าว่าแต่พระพุทธคุณมีจริง คุ้มครองชีวิตได้ แม้แต่ตัวมันเองที่อาศัยพุทธศาสนาหารับประทานอยู่โครมๆทุกวัน ได้รับอามิส เงินทองของมีค่ามากมายจากเอฟซีหน้าโง่นั้น...

นั่นก็เพราะ"พระคุณแห่งพุทธศาสนา" ที่ดลบันดาลเกิด "พระพุทธคุณ" ให้ไอ้อาจมอย่างเอ็งมีกินมีใช้ ลองนับถือแพะเจ้าอย่างเคยสิ มีหวังป่านนี้ไม่มีที่ซุกหัวนอนเหมือนแถวกาซาไปแล้ว...!

เอาละ...เล่นไอ้อาจมเดรัจฉานพอเบาะๆ มีเรื่องอีกแยะที่จะกระชากหน้ากากไอ้มารศาสนาปากสุนัขตัวนี้ ชำแหละหนังราชสีห์หุ้มหนังหมาขี้เรื้อนของมันออกมา รออ่านก็แล้วกัน

หวังว่าคงมีเอฟซีหน้าโง่ที่มันถ่มถุยคุยว่าติดตามอยู่หลายพันคน หลงเข้ามาอ่าน แล้วช่วยก็อปไปให้ไอ้อาชามสับปะรังเคตัวนี้ดู มันจะได้รู้ว่า "ถ่อยอย่างสุภาพ" เขียนแล้วเจ็บ อ่านแล้วปวดเข้ากระดูกดำ ไม่สำรากภาษาลูกพ่อขุนอย่างคนรียำสถุนรุนชาติสิ้นคิดนั้น รสชาติและฝีมือเป็นอย่างไร???

ตอบน้อง "ถวายบูชา" ด้วยของแถมถึงเดรัจฉานบางตัวและพระพุทธคุณของ "พระสมเด็จวัดปากน้ำ" ยาวเหยียด ก็ต้องขอโมทนาและจัดส่งท่านเดินทางวันจันทร์ครับ

 

"สมเด็จวัดปากน้ำรุ่น4"
ชำรุดมอบพร้อมเหรียญ
===============

ท่านโดนตัวแมลงกินพระแทะเสียอย่างเอร็ดอร่อย เอนจอยหลายปี กว่าจะเห็น สาเหตุจากกล่องแตกนำออกมาวางเปลือยอย่างเผลอ

ไหนๆก็เปิดกรุวัดปากน้ำอีกรอบแล้ว ก็ขอนำท่านมอบร่วมบุญตามสภาพ และพ่วงเหรียญรุ่นอุดมความดี สมบูรณ์พูนสุข สร้างวาระครบรอบ "100 ปี-หลวงพ่อสด" เมื่อปี 2527 พ่วงไปด้วย

ทู อิน วัน ความยิ่งใหญ่ของ "หลวงพ่อสด" และวิชชาที่นำทางไปสู่แสงสว่างแห่งธรรม... "ธรรมกาย"...!

=======900=======

ด้านบนขวามือเราครับ ที่โดนตัวกินแพะ...เอ้ย กินพระ แทะอย่างอร่อย เนื้อร่อยไปไม่มาก แต่ก็เข้าข่ายพระชำรุด ซึ่งเจอคนมีฝีมือทางศัลยกรรมก็สบายมาก ถือว่าจิ้บจ้อยสำหรับร่องรอยแค่นี้

แต่การที่เนื้อพระโดนแมลงแทะ นักเล่นรุ่นเก๋าเขาถือว่า นอกจากเป็น "พระแท้" ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์แล้ว ยังเป็นพระที่มีเนื้อหาด้านเมตตามหาเสน่ห์ในตัวสุดยอด จึงถูกแมลงดอดมากิน เช่นเดียวกับ พระสมเด็จวัดระฆัง และสมเด็จดังชั้นดีอีกหลายสำนัก

กลิ่นของมวลสารชั้นยอด เปี่ยมเสน่ห์คงโชยเย้ายวนใจพวกมัน!

องค์นี้บล็อคหน้าธรรมดา ไม่เคยผ่านการใช้

ยันต์สำคัญ "สัมมา อะระหัง" ด้านหลังคมชัดลึกอยู่ครบทุกตัวอักษร เนื้อขาวอมเหลือง องค์จริงสวยซึ้ง ยิ่งร่องรอยเนื้อเปิดเห็นเนื้อในราวกับแป้งกระแจะจันทร์ แป้งเจิมชั้นยอดของคนโบราณ คลาสสิคมาก

ความหนาตั้งได้
วัดปากน้ำรุ่น 4
ต้องหนา-จำไว้
พวกองค์บางๆ
รีบวางไว้ก่อน

แถมมุมด้านบนที่เนื้อร่อยนิดหน่อยให้ชม

เหรียญอุดมความดี 100 ปี
หลวงพ่อสด ไม่ผ่านการใช้
ทำบุญจากวัดปี 2527 มอบ
ให้ไปด้วย ด้านหลังเหรียญ
เป็นยันต์ดวงสมภพหลวงพ่อ
สวยน่ารัก เคยมอบร่วมบุญ
300-500 บาทถ้าจำไม่ผิด

 

■■ เดรัจฉาน-มารศาสนา ■■
~~~~~~~~~~~~~~~

มีไอ้"เดรัจฉาน" หากินกับพระพุทธศาสนา พล่ามเฉพาะ "พุทธวจน" เพราะความรู้หางอึ่งกระจอกงอกง่อยของมันมีแค่นั้น...

แต่มันอาศัยใจกล้าหน้าด้าน กล้าพูด กล้าพ่น กล้าเห่า ใช้ภาษาลูกพ่อขุน เป็นที่สบอารมณ์สะใจคนฟังซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ไม่มีวุฒิภาวะ ปราศจากวิจารณญาณแยกแยะ เพราะไม่เคยศึกษาเรียนรู้ธรรมะ หรือปฏิบัติธรรม เป็น "ชาวพุทธ" แค่ในบัตรประชาชน

กลุ่มคนเหล่านี้ ก็ชอบใจที่ได้ฟังความถ่อย เถื่อน อันเป็นปกติวิสัยของคนโลกยุคออนไลน์ ที่ เอามันส์เข้าว่า ความถูกต้องไว้ทีหลัง ความถูกใจมาก่อน...!

พลังแฟนคลับหรือกองเชียร์ ทำให้ไอ้เดรัจฉานที่ตั้งตัวเองเป็นอาชาม ปฏิบัติการอาจมชวนอาเจียนฮึกเหิมได้ใจ จากการพล่ามพุทธวจนที่พอฟังได้ มันก็ชักหมดมุก หมดเรื่องพล่ามหนักระโถน ก็เริ่มจับจุดต่างๆของชาวพุทธขึ้นมาชำแหละ ตำหนิติเตียน

วัฒนธรรมประเพณีของชาวพุทธ ถูกมันจับมาสับ อาทิ...

--บวชทดแทนคุณพ่อ-แม่ ได้บุญจริงหรือ?
--พระพุทธคุณมีจริงหรือเปล่า?
--เทศน์มหาชาติ เทศน์ไปทำไม ใครฟังรู้เรื่องบ้าง?
=====ฯลฯ=====

ล่าสุดมันแซะหยาบคายว่า...พระสงฆ์ที่ไม่เน่าไม่เปื่อย คนไปกราบไหว้ศพนั้น ไม่แปลกตรงไหน ต่างประเทศหมา-แมวสัตว์เดรัจฉาน ก็ตายแล้วไม่เน่าเยอะแยะ

ไอ้เดรัจฉานจากทะเลทราย...เอ้ย จากอบายภูมิตัวนี้ มันเริ่ม "ล้ำเส้น" ถลำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความลำพองใจคิดว่ามีกองเชียร์เห็นดีเห็นชอบเห็นด้วยมาก

บังอาจเปรียบเทียบพระอริยเจ้ากับสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งเป็นสัตว์ "เลเวล" ระดับเดียวกับตัวมัน!

อีกนัยหนึ่ง มันก็คือ "วัสสการพราหมณ์" แฝงมาจากลัทธิหรือศาสนาอื่น เพื่อเข้ามายุแหย่ ยุยงทำลายพระพุทธศาสนาด้วยกลวิธีล้ำลึก เป็น "ไส้ศึกภายใน" ทำให้ภายในอ่อนแอ แล้วค่อยเปิดประตูปล่อยข้าศึกบุกตีเมืองง่ายดาย

เปรียบเทียบเดรัจฉานตัวนี้ กับงานที่มันกำลังทำ เห็นชัดเจนว่า มันไม่ใช่ "ชาวพุทธ" มันแค่เสแสร้งแกล้งทำ และศึกษาพุทธวจนมาอย่างดี

ส่วนความรู้ทางธรรม การปฏิบัติของมันยังเป็น "บัวใต้น้ำ" ใต้โคลนตม ไม่มีความรู้และสาระอื่นใดเลย

ยิ่งมันพูดถึงเหล่าอริยสงฆ์ ที่ทิ้งสรีระแล้วไม่เน่าเปื่อยอย่างนั้น ยิ่งเปิดหน้ากากชั่วของมัน ให้รู้ว่า มันเป็น "เดนนรก" ที่ไม่มีความรู้ทางธรรม ทางด้านปฏิบัติแม้แต่ปลายเล็บ ปลายก้อย!!!

สมควรที่ต้องถลกหนังหัว ลอกหนังลาหุ้มหนังหมาขี้เรื้อนของมันออกมากระทืบ โยนยัดลงกระโถนตรงหน้ามัน!

แล้วก็มอบ ความรู้" เกี่ยวกับ อริยเจ้าสังขารไม่เน่าเปื่อยให้สมองเม็ดถั่วเม็ดงาของมันสักนิด

มันเปรียบเทียบร่างไม่เน่าเปื่อยของคนไทยกับหมาแมวเมืองนอก โดยไม่มีความรู้และลืมไปว่า หมาแมวแถบยุโรปที่ไม่เน่าตอนตายนั้น เพราะบางประเทศ..."อากาศหนาวจัด" เป็นธรรมดาที่ช่วยรักษาร่างเอาไว้

สังขารบาทหลวงมากมายใต้โบสถ์วิหารที่ตายแล้วไม่ได้ฝัง แต่เอาศพเก็บไว้เพราะเป็นบาทหลวงมีชื่อเสียง ก็ถูกค้นพบเวลาบูรณะโบสถ์เก่าแก่อายุนับหลายร้อยปี แต่ละคราวเป็นสิบๆร่าง แห้งไม่เน่าเปื่อย

ยิ่งเมืองหนาวใต้โบสถ์ ใต้ธรณี ก็ยิ่งหนาวเยือกแข็ง ไม่ต้องทำอะไรร่างก็ไม่เน่า ซึ่งฝรั่งเขาเห็นเป็นเรื่องปกติ ไม่มหัศจรรย์ มันเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ ตามภูมิประเทศแวดล้อม

คราวนี้มาดูประเทศที่แผ่นดิน "ร้อนจัด" อย่างชาวทะลทรายดูบ้าง

คนทะลทรายที่อยู่ในภูมิภาคร้อนแล้งสุดขั้ว มีมากที่ตายแล้วฝังในทะลทรายถึงเวลาคนไปพบศพก็ไม่เน่าเปื่อย ร่างยังดี แห้งไปเองแบบ "มัมมี่" โดยไม่ต้องทำ ก็เพราะความร้อนรุนแรงที่ ปราศจาก "ความชื้น" รักษาศพไว้...

นั่นก็ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์หรืออัศจรรย์ เป็นปกติสามัญของคนทะเลทรายเช่นกัน

แล้ว "ประทศไทย" ละ???

ไอ้เดรัจฉานชาติงั่งชั่วช้า...เอ็งจงจำไว้ว่า ประเทศไทย ไม่ร้อนแบบแผ่นดินทะลทราย...ไม่หนาวสุดขั้วอย่างยุโรป

ประเทศไทยคือแผ่นดินที่มีภูมิอากาศ "ร้อนชื้น" มีความชื้นสัมพัทธ์อยู่ในอากาศทุกอณู...

ดังนั้น คนตายแล้วร่างต้องเน่าต้องเปื่อย หนอนต้องขึ้นยั้วเยี้ยไม่มีทางที่จะไม่เน่าถ้าปล่อยไว้แค่ 2-3 วันโดยไม่ฉีดยา

จำไว้นะไอ้เดรัจฉาน ไอ้สถุน จำใส่กระโหลกกะลาน้อยๆไร้สติปัญญาที่แท้จริงของเอ็งไว้ด้วย

การไม่เน่าเปื่อยของอริยสงฆ์ย่อมหมายถึง "ภูมิธรรมและการปฏิบัตธรรม" ของท่านเข้าขั้น "จิตสะอาดบริสุทธิ์"!!!

ความว่างจากชั่ว ว่างจากปวงอบาย ว่างจากกิเลสตัณหาทุกประการ พลังจิตสามารถฟอก หรือขัดเกลา "โมเลกุล" ในเรือนร่างให้ปราศจากสิ่งชั่วร้าย ตัวแทนความชั่ว ความเน่าเหม็นเจือปนปราศนาการหายไปสิ้น

ท่านอาจจะ "สั่ง" อย่างไรก็ได้กับร่างท่านด้วยจิตบริสุทธิ์ บางท่านก็สั่งให้เผา บางท่านก็อธิษฐานจิตมิให้เน่าเปื่อย บางรูปสั่งห้ามศิษย์ว่าอย่าเผา

เอ็งเคยรู้เรื่องราว เคยเห็น หลวงพ่อด่วน วัดบางนอน จังหวัดระนอง หรือเปล่าไอ้เดรัจฉาน???

นั่นนะ กระทำพิธีฌาปนกิจร่าง ท่ามกลางคนเป็นสักขีพยานค่อนเมืองระนอง มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุภาพสตรีเป็นประธานงาน เผาเท่าไหร่ก็ไม่ไหม้ จนต้องเลิกเผาแล้วนำสรีระท่านเก็บไว้จนทุกวันนี้

เพราะท่านสั่งไว้แล้วว่า..ห้ามเผา!

หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน นครศรีธรรมราช ที่เผาเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไหม้ กระทั่งฟืนบนกองฟอนเผาอย่างบ้านๆไหม้หมด จีวรพ่อท่านยังอยู่ดี ประจักษ์พยานนับพันลูกตา เพราะไม่มีโลงไม่มีเมรุ เผากลางลานวัดอย่างโบราณจริงๆ ปิดบังซ่อนเร้นสร้างนิยาย "เผาไม่ไหม้" ลับหลังไม่ได้เลย

มากรูปเมื่อละสังขารทิ้งสรีระ ก็ไม่เกิดการเน่า!!!

เช่น "หลวงพ่อโอภาสี" อาศรมบางมด อยู่เกือบใกล้กลางกรุงนี่เอง แม้แต่ "น้ำเหลือง" ของท่านในโลง ลูกศิษย์กอบด้วยสองมือขึ้นมาทาหน้า ทาผม ทาตัว ทาแขนขาเป็นศิริมงคล ก็เป็นน้ำเหลืองที่กลิ่นหอมฟุ้งราวกับน้ำอบไทย

ลูกศิษย์คนนี้กับเพื่อนๆ เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือ เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม เป็นมหาเศรษฐี ไม่มี "ความเท็จ" ในเรื่องเล่า มีแต่ไม่กล้าเล่าหมด เพราะกลัวคนฟังที่ไม่สนิทสนมคนอื่นๆได้ยินเข้า จะหาว่า "บ้า"!

หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ เชียงใหม่ นั่นยิ่งหนักข้อเหนือโลกเข้าไปอีก เพราะยังไม่มรณภาพเลย "กระดูก" ยังกลายเป็น "แก้ว" ความจริงนี้หากไม่เปิดเผยโดย แพทย์-พยาบาล ก็คงไม่มีใครรู้

เอ็งจะว่าหมอกับพยาบาลโกหกโกห้าก็ตามใจ เพราะสติปัญญาที่ถูกหล่อหลอมมาโดยลัทธิลวงโลกของเอ็งมันมีแค่นั้น

ไหนจะยัง "พระธาตุ" สำหรับพระอริยที่กระทำฌาปนกิจแล้ว อีกนับรูปไม่ถ้วน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน "พระธาตุ" ของพระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ บังเกิดให้เห็นตลอดเวลา

เอ็งลองศึกษาสิ่งเหล่านี้ให้ลึกซึ้ง เกินกว่าท่องพุทธวจน เป็นนกแก้วนกขุนทองนะ ไอ้เดรัจฉาน

จะให้ดีลองหันมาปฏิบัติแบบเอาเป็นเอาตายดูสิ บางทีเอ็งอาจกลายเป็น "พระเจ้า" ได้เสียเอง โดยไม่ต้องแอบกราบพระเจ้าที่ไร้ตัวตนอย่างงมงายลับหลัง เวลาไม่มีใครเห็น

สุดท้ายก่อนจบเรื่องนี้เพียงเบาะๆ แต่ยังมีอีกมากของ ไอ้เดรัจฉาน มารศาสนาตัวนี้ ต้องจัดการกับมันจนกว่า มันจะลงกระโถนและลงหลุมพรางที่ตัวมันเองหลงขุดไว้

สำหรับ "ชาวพุทธ" ที่แท้ทุกท่าน โปรดจงสำเหนียก สำนึกไว้เสมอว่า...

พระพุทธศาสนาในประเทศไทยวันนี้ มี "ภัยร้ายแรง" รุมล้อม เพื่อบอมป์ทำลายจากศัตรูภายนอก-ภายในทุกรูปแบบ

พวกมันอาศัยความเมตตาโอบอ้อมอารีของชาวพุทธที่ไม่ถือถือเขาถือเราในการนับถือศาสนาใดก็ได้ บุกรุกเข้ามาอย่างลับๆ อย่างเปิดหน้า อย่างโฉดชั่ว ทุกวิธี ทุกเส้นทาง...

เข้าตำรา...ทำลายไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล!

ส่วนเรื่อง "มนต์คาถา" มันรู้ว่า ถึงอย่างไรก็สู้พระอริยสงฆ์เคร่งธรรมปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ระดับพระสุปฏิปันโนชาวพุทธไม่ได้

มันจึงเบนเข็มทำลายล้าง "ความศรัทธา" ความน่าเชื่อถือที่ชาวพุทธมีต่อพระอริยเจ้าทุกรูป

แม้กระทั่งสรีระสังขารอันเป็นที่เคารพ มันก็พยายามหาเรื่องแซะทำลายศรัทธา เพียงแต่มันยังโง่เขลา ยังมีภูมิความรู้ทางธรรมน้อยถึงน้อยมากและน้อยที่สุด...!

มันหารู้ไม่ว่า ชาวพุทธนั้น ศรัทธาแต่ไม่โง่งมงายเหมือนไอ้พวกกราบหินแล้วหอนคร่ำครวญวันละหลายเวลา

ชาวพุทธส่วนใหญ่มองเป็นและมองออก สิ่งไหน"ของจริง" เนื้อหนังมังสาใดเป็น "ของปลอม"

เช่นเดียวกับ "เนื้อแท้" ของเดรัจฉานมารศาสนาบางตัวที่กำลังผุดโผล่ออกมาให้เห็นว่า ที่แท้แล้วมันก็คือเศษเดน เศษสวะที่แอบเข้ามาอาศัยศาสนาพุทธหากิน

แถมเป็นเดนนรก "อกตัญญู" เป็นพวก "กินบนเรือน ขี้รดหลังคา"...เศษสวะเดรัจฉานตนนี้ ต้องกำจัดมันสถานเดียว อย่าปล่อยไว้!!!

***หมายเหตุ...ทุกท่านสามารถนำข้อเขียนนี้ไปเผยแพร่ได้ทุกช่องทาง โดยไม่ต้องขออนุญาต ทำคลิปเสียงอ่านออกยูทูปได้ยิ่งดี ต้องช่วยๆกันทุกวิถีทาง เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาจากไอ้พวกชั่วนี้ไว้ ให้มันเห็นการตื่นรู้ทันของชาวพุทธ อย่าให้มันมองเราหมู ทั้งที่มันไม่กินหมู!!! ***

 

ถ้ามุขอรับไปดูแลต่อและจะขอบูรณะปิดทององค์ท่านให้สวยล่ะคะ พระองค์แรกของมุที่เลี่ยมทองคือพระของขวัญ และหลวงพ่อเงินค่ะที่คุณพ่อมอบให้

มุขอบูชาและจะให้ช่างฝีมือบูรณะให้งามเหมือนเดิม เพื่อรักษาองค์พระไว้ มุจำเรื่องงานกฐินของหลวงพ่อสดได้ค่ะ คนเก่าแก่เคยเล่าให้มุฟัง

แต่ตัวแมงแทะพระนี่ต้องจัดการยังไงคะ? เอาตากแดด??

 

. .
ที่สงสัยว่า พระพุทธเจ้า นั้น
มีจริง ไหม
นี่ มีผู้ สงสัยอยู่จริง
สิ่งที่พระพุทธเจ้า สอนไว้
ขอให้ ผู้ สงสัย ไปศึกษา
แล้ว นำไป ปฏิบัติ
ก็จะ มีคำตอบ
ก็จะ หายสงสัย
ก็จะ เชื่อว่า
พระพุทธเจ้า นั้น มีจริงไหม
มีคำตอบอยู่ ใน คำสอน นั้นแล้ว
ไม่ต้องอธิบายมาก
เพราะ อธิบายให้ หายสงสัยนั้น ก็ยากอยู่
ไปศึกษา หลักธรรม คำสอน
และปฏิบัติ ไป ด้วย
ก็จะ คลาย ความสงสัย
และหายสงสัย ไปเอง
ดังนี้เป็นต้น

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
อนุโมทนาบุญกับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
ขอให้ทุกท่านและครอบครัวพบเจอแต่สิ่งดีๆ มั่งมีศรีสุข สุขภาพแข็งแรง เจริญในหน้าที่การงานเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง กิจการรุ่งเรืองเฟื่องฟู คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครอง ร่ำรวยเงินทองทรัพย์ศฤงคาร เฮงๆๆ ทุกท่าน สาธุ

 

วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้ อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

'จารย์มุ มาช่วงเกือบดึก รับพระของขวัญรุ่น4 จะนำท่านไปบูรณะ ก็ตามสะดวกเลยครับ หวังว่าคงมีช่างฝีมือดี และมี "เนื้อผง" เติมตรงจุดที่แมลงแทะหายไป

ส่วนการกำจัดแมลง ก็มีวิธีละมุนละม่อมเช่นนำผึ่งแดดอย่างที่ถาม อีกวิธีโหดหน่อย เขานำพระแช่น้ำ แมลงจมน้ำตายเกลี้ยง ซึ่งเสี่ยงกับพระบางอย่างโดนน้ำนานๆไม่ได้ อาจละลายไปกับน้ำด้วย บางคนก็ใช้วิธีเคลือบชะแล็ค กลิ่นของสารเคมี แมลงหนีกระจุย

และมีข้อพึงสังเกตว่า พระผงเก๊แมลงไม่แทะ เพราะมีส่วนผสมของ"ปูน" กับสารเคมีเยอะ มันกลัวฟันหัก ไม่ก็เมากาวตาย-ฮ่า

ภูมิปัญญาโบราณจึงมักจะลงรักปิดทองหรือล่องชาด พระสมเด็จที่ลงรัก แมลงไม่กล้าแตะ นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมพบเจอพระสมเด็จลงรักปิดทองมากในสมัยก่อน

สำหรับองค์นี้ ผมผึ่งแดดไล่แมลงไปแล้ว ไม่ต้องห่วง อยากซ่อมแซมท่านก็ทำได้เลย จัดส่งให้ช่วงเที่ยงหรือบ่ายวันนี้

 

พรเช้าวันจันทร์ ฝ่าลมหนาวมาจากท้องทุ่งสุพรรณฯ ก็ขออำนวยพรให้คืนกลับไปอย่างรวดเร็ว ได้รับดังพรนั้นทุกประการดุจกัน ขอบคุณน้องน้อต

 

วันจันทร์แรกของปี 2568 กับวันพระแรก ได้ใส่บาตรเช้าเรียบร้อย ก็มาร่วมอนุโมทนาบุญยามเช้าอีกครั้ง รับบุญ2เด้ง3พลังก่อนไปทำงาน

 

พระพุทธเจ้ามีจริงแน่
ของแท้ล้านเปอร์เซ็นต์
อย่าเคี่ยวเข็นฤาสงสัย...

*** 2,600ปี....มิมีสูญ
พระเพิ่มพูน...คูณคุณค่า
มหาบุรุษ.....พุทธศาสดา
นำมรรคา..เพียรพาพ้น
--'พุทธองค์'...ทรงสอนสั่ง
--ธรรมาฝัง...ยั่งยืนล้น
--คนปฏิบัติ...ชัดเจนตน
--สิ้นสับสน...ผลแห่งธรรม!

หมายเหตุ...พุทธศักราชเริ่มต้น พ.ศ.ที่ 1 เมื่อพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพาน หากรวมเวลาที่องค์มหาศาสดาทรงตรัสรู้ และสั่งสอนเวไนยสัตว์ อีก 45 ปี พระพุทธศาสนาวันนี้มีอายุกำเนิด เกินกว่า2,600 ปี

เป็นศาสนาที่มีอายุกำเนิดรองจากศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูสูสีกับศาสนายิว ส่วนศาสนาอื่นเกิดทีหลังเกินกว่าครึ่งพันปี(คริสต์) และเกินกว่าพันปี(อิสลาม)

ความยั่งยืนของพระพุทธศาสนาถึงวันนี้ ก็เพราะคำสอนที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงชัดเจน พิสูจน์ได้ทุกเมื่อ ยืนยงเป็น "อกาลิโก"(เหนือกาลเวลา) เป็นศาสนาแห่งปัญญา ไม่ขัดกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ ไม่สั่งให้เชื่อ ผู้ใดทำ ผู้ใดปฏิบัติ ผู้นั้นได้...!

ไม่มีพระเจ้ามามอบให้ เพราะชีวิตนี้เป็นของเรา ธรรมะย่อมเกิดกับผู้ปฏิบัติธรรม มิพักต้องสวดอ้อนวอน บุญของเรา เราเสวยผลนั้น บาปของเราก็ชดใช้ ไม่มีใครมารับแทน

และที่สำคัญสุดก็คือ...

***ไม่บังคับให้เชื่อ ไม่ปกครองด้วยกฏศาสนา กดขี่ กดหัวมนุษย์ให้จมอยู่กับความเชื่อเหลวไหล ยิ่งกว่า"ทาส" ยุคโบราณ!!! ***

 

"หลวงพ่อปากแดง"ศักดิ์สิทธิ์
หลัง"รัชกาลที่๕"-นครนายก
===============

กลับเข้าการทำบุญวัตถุมงคลมีคุณค่าราคายุติธรรม

ลืมกันแล้วหรือยัง?..."หลวงพ่อปากแดง" พระพุทธรูปขลังศักดิ์สิทธิ์โดดเด่นที่สุดเรื่องโชคลาภ แห่ง "วัดพรหามณี นครนายก"!

อิทธิคุณองค์ท่านคงมิต้องบรรยายเสียเวลา คนรักเลขชอบลุ้นเลขทั้งประเทศไทยรู้ดี ขนาดถูกรางวัลที่ ๑ ก็มีมาแล้ว ส่วนรางวัลอื่นๆก็ถูกกันบ่อยกระทั่งเป็นเรื่องธรรมดา

คนอยู่ไกลอยากไปกราบไหว้เดินทางไม่ไหว ค่าใช้จ่ายสูง ก็นี่เลย นำพระเนื้อผงองค์ท่านรุ่นแรกไปบูชา เป็นรุ่นที่สร้างได้สวยงามยอดเยี่ยม ผงซีเมนต์เขียวใส่ "เกร็ดเพชร" หรือสะเก็ดพลอยตำระยิบระยับ แพรวพราวทั้งหน้า-หลัง ดูตรงไหนก็ขลัง สักการะตรงตัวแทนการเดินทางสิ้นเปลือง

ด้านหลังเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช หนึ่งในล้นเกล้าชาวไทยที่ทรงพระมหาบารมี เปี่ยมความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง มอบร่วมบุญเพียง...

=======400=======

จุดขาวๆพราวทั่วองค์ คือพลอยตำ พลอยเสกเป็นสะเก็ดเพชรประดับองค์พระ สร้างพิเศษให้กรรมการ เนื้อขาวไม่มีพลอยตำโรยใส่ เนื้อเขียวนี้ มีไม่มากนัก

อธิษฐานบูชา ส่งจิตสักการะถึง องค์หลวงพ่อปากแดง พระพุทธรูปเก่าแก่อายุหลายร้อยปี สมัยลาวล้านช้างนำมาจากนครเวียงจันทร์ ทรงเครื่องดอกพิกุล มีพระโอษฐ์แดงสดงดงาม เป็นที่มาของพระนาม

มีโชคมีชัยแล้วก็อย่าลืม ทำบุญอุทิศให้เทวดารักษาองค์พระ การทำบุญบารมีก็เท่ากับเสริม "รัศมีกาย-รัศมีธรรม" องค์ท่านแข็งแกร่ง สามารถช่วยเหลือคนยากคนจน คนเดือดร้อนได้ตามบุพกรรม หรือ "เร่งบุญ" ได้รวดเร็วขึ้น

พระบรมสาทิสลักษณ์ทรงเครื่อง ครึ่งพระองค์ "พระปิยมหาราช" กราบบูชาพระองค์ท่านพร้อม "หลวงพ่อปากแดง" เป็น ทู อิน วัน 2 พลังเหนือโลกที่หายากยิ่ง!

จุดขาวๆทั่วพระองค์ก็คือเกล็ดพลอยเสก ไม่ใช่สิ่งสกปรก ถ่ายภาพไม่เห็นชัด แต่องค์จริงแพรวพราวสุกสกาวเต็มตาไม่ต้องลงกล้อง

องค์ท่านหนา
เนื้อหาล้ำค่า
เกินราคามาก

ทรงซุ้มกอ ขนาดกำลังบูชา

 

เรียนสมาชิกที่รัก

วันนี้ม้าด่วนยังไม่กลับจากเมืองชาละวันบ้านเกิด เพราะติดงานแต่งงานน้องสาว การส่งของจึงขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้ ต้องขออภัยทุกท่าน

ก่อนนอนก็ชม พระเครื่องเรื่องน่ารู้ จะได้หลับฝันดี

 

"พระท่ากระดานน้อย"
กรุวัดศาลเจ้า-ราชบุรี
===============

ท่ากระดานใหญ่-เมืองกาญจน์ แพงนักหลักล้าน เห็นราคาแล้วต้องส่ายหัว หน้ามืดจะเป็นลม!!!

มาชม "ท่ากระดานน้อย-ราชบุรี" บ้านพี่เมืองน้อง แดนติดกันซึ่งราคาไม่รุนแรงจนกระเป๋าแหว่ง แต่พุทธคุณเป็นที่ยอมรับกันเนิ่นนานว่า สุดสะเด่าสะเด็ดยาด สมกับที่ได้รับฉายา "ท่ากระดาน" เป็นเกียรติ...!

พระเนื้อชินสนิมแดงแรงฤทธิ์เหมือนกัน แต่องค์เล็กกว่าเยอะเข้าตำรา "เล็กพริกขี้หนู

ปลดจากสร้อยให้ชมเฉยๆไม่ได้มอบให้บูชา เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ

ประวัติเล็กๆน้อยๆก็มีว่า...วัดศาลเจ้าเป็นวัดเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของเมืองมังกร ราชบุรี น่าจะสร้างยุคอยุธยาตอนปลาย และบูรณปฏิสังขรณ์โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อครั้งพระองค์ท่านทรงดำรงตำแหน่งเป็น "หลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี

ปี 2465 ฟ้าผ่าองค์พระเจดีย์ พระเครื่องจำนวนหนึ่งแตกกรุออกมา แต่สมัยนั้นไม่มีคนเก็บพระเข้าบ้าน "เถ้าแก่บู๊" คหบดีเจ้าของโรงสีติดกับวัดศาลเจ้า รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพบูรณะแล้วบรรจุพระกลับเข้าในเจดีย์รวมทั้งพระอีกหลายพิมพ์สร้างเพิ่มเติมเข้าไว้ในกรุด้วยจิตศรัทธา

กาลเวลาผ่านมาอีกเกือบ 40 ปี คราวนี้พระเจดีย์ที่บูรณะชำรุดครั้งที่ 2 ในปี 2504 แต่หนนี้คนไม่เก็บพระกลับเข้าที่เดิมแล้ว มีแต่เก็บพระเข้าบ้านเพราะถือเป็นของดีฟ้าประทาน

พระเนื้อชินสนิมแดงองค์เล็กพบมากที่สุด เป็นที่สันนิษฐานได้ไม่ยากว่าสร้างไว้เป็นพุทธบูชาโดยหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ซึ่งกาลต่อมาคือ...รัชกาลที่ ๑ ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี!!!

พระท่ากระดานน้อย ราชบุรี มีสนิมแดงแซมไข กับสนิมแดงจัดคล้ายกับกรุท่าเสา กาญจนบุรี แต่ของกรุท่าเสา อายุเก่าแก่กว่าและมีพระพักตร์ชัดเจนกว่า

กระนั้นจะเป็นกรุศาลเจ้าหรือท่าเสา ก็ขอให้เป็นของแท้เถิด พุทธคุณคงกระพันเป็นหลัก แคล้วคลาดกับเมตตาก็ไม่เบา สมกับเป็น "เล็กพริกขี้หนู" ใครเห็นก็รักชอบและเมตตา!

สนิมแดงแซมไขขึ้นคลุมเกือบทั่วทั้งองค์ หลายสิบปีก่อนเจ้าของเดิมเคยนำแช่ทินเนอร์ เพราะไขคลุมมากอยากรู้ว่าสนิมแดงข้างล่างแท้หรือไม่? ปรากฏว่าทินเนอร์กัดไขไม่ออก แม้จะใช้แปรงสีฟันขัดถู ( ตามคำบอกเล่า) กระทั่งกินเนื้อบางส่วนถลอกไปบ้าง น่าตีมือนักเชียว

แต่ก็อีกนั่นแหละคนสมัยก่อน ไม่มีวิธีทำความสะอาดพระเครื่องอย่างมีวิชาความรู้ ส่วนใหญ่ใช้การบอกต่อๆกัน โดยคนมีประสบการณ์ล้างพระเครื่องพังไปมาก พระแท้ๆถูกล้างเสียจนกลายเป็นพระเก๊ก็เยอะ

องค์นี้ สีหม่นๆมัวๆด้านบนพระเศียร กับแขนด้านบนขวามือเราคือสนิมแดงซึ่งคลุมเป็นหย่อมๆ ถ่ายรูปได้ดีที่สุดแค่นี้ จัดเป็นองค์ที่งามสมบูรณ์มากองค์หนึ่ง

ท่ากระดานน้อยเป็นพระปางมารวิชัย!

ด้านหลังสนิมแดงเห็นชัดหน่อยหลายจุด ด้านล่างซ้ายมือเรา คือส่วนที่ผิวถลอกไปบ้างจากการกัดล้างอย่างไม่ปราณีด้วยทินเนอร์โดยเจ้าของมือแรก แต่สนิมแดงที่ถัดช่วงผิวเปิดขึ้นไป ก็ยังคงอยู่ดีไม่หายไปไหน

โดยรวมสนิมไขที่ขึ้นแซมคลุมสนิมแดงนั้น น่ารักน่าศึกษามาก

ความงามตราตรึง
ด้านข้างสนิมแดง
+สนิมไขครอบงำ
เสน่ห์พระเนื้อชิน
ตะกั่วโบราณ...!

ตลับเก่าผ่านศึกไม่น้อย
คุ้มครองดีทุกที่ทุกสถาน
ขนาดของพระเอกชุดเล็ก
อยู่บนคอน่ารักน่าคร้ามเกรง
ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายบูชาดี

ค่ำคืนแห่งจันทร์แรกของปีงูเล็ก 2568 ก็ขอฝากมหาบารมีปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี อิทธิคุณวิเศษองค์พระ "ท่ากระดานน้อย" จงแผ่คุ้มครองสมาชิกและผู้อ่านทุกท่าน หลับฝันดี ตื่นพบโชคชัย สำเร็จราบรื่นในหน้าที่การงาน แข็งแรง และแกร่งยั่งยืนนานประดุจองค์ท่ากระดานน้อย ที่สามารถผ่านร้อนฝนหนาวกว่าสองร้อยปี สายอสุนีบาตฟาดลงมาก็มิเป็นไร!!!

 

วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้ อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

เข้าห้วงเวลาดี ทีไทม์ แวะกระทู้ร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรยามเช้าก่อนไปว่ากันเรื่องอื่นๆ

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 8375 9380 8 TH แกดำ
--ED 8375 9381 1 TH สังขะ
--ED 8375 9382 5 TH สามเสนใน

 

หลวงปู่ทวดหลังสมเด็จโต
สำนักปู่สวรรค์สร้าง-2512
===============

วันเวลาผันผ่านไม่คอยท่า ความยิ่งใหญ่เกรียวกราวที่"สำนักปู่สวรรค์" ก่อตั้งในปี 2509 และมีบทบาททางสังคมต่อต้านคอมมิวนิสท์ในยุคที่ลัทธิตราค้อนเคียวสีแดงคืบคลานเข้ามาครอบงำส่วนหนึ่งของประเทศ

ในทางพระศาสนาก็เป็นสำนักที่น่าเชื่อถือด้านปฏิบัติธรรม ประทับทรง "หลวงปู่ทวด" กับ " สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" ช่วยคนเจ็บป่วยรักษาโรคแปลกๆ และปรึกษา+สอนธรรมะ กับช่วยเหลือสังคมหลากหลาย

"จงทำดี แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย"...ประโยคอมตะเอามาหากินและเป็นแบบอย่างได้เสมอ!

สำนักปู่สวรรค์ก็เช่นกัน เมื่อผู้ก่อตั้ง นายสุชาติ โกศลกิติวงศ์ ได้รับความนิยมมากขึ้น พัฒนาไปสู่การสร้างอาณาจักรสำนักหุบผาสวรรค์ในปี 2520 พลังแฝงด้านมืดก็เริ่มรุกทำลายการเติบโตอาณาจักรแห่งนี้

จากการเป็นนักต่อต้านคอมฯกลับโดนกล่าวหาเป็นคอมฯเสียเองว่า สะสมอาวุธ ส้องสุมผู้คน เตรียมเปลี่ยนการปกครอง เอาศาสนจักรมาบังหน้า

ความเกรียวกราวของสำนักปู่สวรรค์+อาณาจักรหุบผาสวรรค์ คนรุ่นนี้เกิดไม่ทัน นึกภาพไม่ออก ก็นึกถึงเรื่อง "วัดธรรมกาย"+"พระธัมมชโย" ที่ผ่านมาไม่นานก็แล้วกัน

นั่นแหละ ภาพความยิ่งใหญ่อลังการด้านข่าวสารกระหึ่มประเทศแห่งสำนักปู่สวรรค์...!

ตลกร้ายกลางเมืองหลอกลวงผู้คนของทางการบ้องตื้น เพื่อปราบทำลายล้างสำนักปู่สวรรค์ครั้งกระน้น ส่งผลให้ นายสุชาติ โกศลกิติวงศ์ ถูกฟ้องร้องเป็นสิบคดี โดนจับขังติดคุก และระหว่างนั้นหลายคดีถูกยกฟ้องไม่มีหลักฐาน

คดีใหญ่ๆอีก 7 คดี ซึ่งหลายคดีเข้าเกณฑ์ประหารชีวิตหรือติดคุกหัวโตตลอดชีวิต ก็โดนยกฟ้องหมดสิ้น!

นายสุชาติ โกศลกิติวงศ์ บริสุทธิ์ผุดผ่องทุกข้อหา แม้ฟ้ามีตา คุณพระคุ้มครองแต่ก็ติดคุกฟรี เมื่อออกมาเขาก็บวชในบวรพระพุทธศาสนาและมรณภาพในผ้าเหลือง

ความน่าอัศจรรย์ก็คือ ร่างของพระสุชาติไม่เน่าเปื่อย ไม่ต้องทำะไรเลยเพื่อสร้างภาพ!!!

เรื่องที่เหนือโลกเช่นนี้ หัวโล้นสร้างภาพสัมภเวสีมารศาสนา หากินด้วยการเกาะ "พุทธวจน" อย่างไอ้กระโถนธรรมไม่มีวันเข้าใจ เพราะไร้ธรรมที่แท้ ไม่เคยผ่านการปฏิบัติแม้สักปลายขี้เล็บ

เอาละ...เรารู้จักสำนักปู่สวรรค์พอสังเขปสำหรับคนรุ่นหลังที่เกิดไม่ทัน จากนี้เชิญมารู้จักวัตถุมงคลที่สำนักนี้สร้างขึ้นเป็นรุ่นที่ 2 ในปี 2512 ครบวาระ 3 ปีที่ก่อตั้งสำนัก

เหรียญหลวงปู่ทวดด้านหลังสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มีจำนวนสร้าง 5,000 เหรียญ ประสบการณ์เพียบ เล่าไปก็เป็นนิยายขายของ

เอาเป็นว่าพิธีพุทธาภิเษกไม่เป็นรองวัดไหน แม้แต่ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง และ นับสิบคณาจารย์ชื่อดัง ก็ร่วมในพิธีเช่นเดียวกับปี 2516 ที่สำนักนี้สร้างพระสมเด็จดิน 9 ประเทศ

ลองชม...ชอบก็เชิญร่วมบุญ

=======400=======

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดด้านหน้า เหรียญอายุสร้าง 56 ปีผิวหิ้ง สภาพเก็บเก่าไม่ผ่านการใช้ มีราคาในท้องตลาดทุกเหรียญเพราะสร้างน้อย เปิดชมตามเว็ปประมูลทุกแห่ง ไม่เคยค้างติดเหลืออยู่หน้าเว็ป

สมเด็จโต พรหมรังษี กับรายละเอียดวาระสร้างและปีสร้าง 2 พลังยิ่งใหญ่เหนือโลกที่ทำให้สำนักปู่สวรรค์เป็นที่เลื่องชื่อ

เหรียญกลมกลางอย่างเท่

 

วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้ อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล